ถึงตอนนี้ ต้องยอมรับว่า นักกีฬาแบดมินตันมาเลเซียในแต่ประเภท มีตัวเลือกมากมายสำหรับนักกีฬาที่มีโอกาสได้รับการคัดเลือกไปแข่งขันรายการใหญ่ เพราะนอกจากชายเดี่ยว ที่มี LEE Chong Wei เป็นตัวยืนแล้ว ก็มีการแข่งขันมากมาย
 

ผลพวงนี้ เกิดขึ้นตามแผนงานที่ Morten Frost กำหนดไว้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค สมาคมแบดมินตันมาเลเซีย ที่สามารถหาเอกชนมากมายมาสนับสนุนทีม จนสามารถส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการต่างๆทั่วโลก โดยแบ่งเกรดนักกีฬา ที่ผู้เล่นชุดใหญ่ จะไปแข่งขันระดับ Superseries ตามการเรียกขานในขณะนั้น ส่วนระดับรอง ก็ไปแข่งขันระดับ Grand Prix Gold เพื่อดูพัฒนาการและความสามารถ

 

แม้วันนี้ Morten Frost ไม่ได้ทำงานกับทีมแบดมินตันมาเลเซียแล้ว แต่แผนการพัฒนานี้ก็ส่งผลให้เห็นในปีนี้ และทำให้ทีมชาติมาเลเซีย มีนักกีฬามากมายให้คัดเลือก ดังที่มีข่าวการเลือกนักกีฬาอิสระ กลับมาติดทีมชาติเมื่อสร้างผลงานดี

โดยอันดับโลกประเภท HSBC RACE TO GUANGZHOU RANKINGS ที่สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) จะเลือกนักกีฬาอันดับ 1-8 ไปชิงชัยรายการสุดท้ายที่ GUANGZHOU นั้น แม้อาจจะยังเหลือโปรแกรมแข่งขันอีกหลายรายการ แต่การแข่งขันระหว่างผู้เล่นชาติเดียวกันของมาเลเซีย โดยเฉพาะในประเภทคู่ผสม ถือว่าดุเดือดน่าจับตามองมาก
 

เพราะถึงตอนนี้ คู่ของ GOH Soon Huat - Shevon Jemie LAI ที่เคยเป็นคู่มือ 3 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 1 หลังโชว์ผลงานดีในยุโรป คว้าแชมป์ที่เยอรมันและเข้ารอบลึกที่ออลอิงแลนด์ ต่างจากคู่ของ CHAN Peng Soon - Liu Ying GOH ที่ยังไม่สามารถคืนฟอร์มเก่ง ร่วงไปอันดับ 6 ส่วนคู่ TAN Kian Meng - LAI Pei Jing ที่เคยขึ้นเป็นคู่มือหนึ่งของทีมชาติ ก็ร่วงไปอันดับ 11

 

ขณะที่ประเภทอื่น ก็มีการแข่งขันระหว่างนักกีฬาชาติเดียวกันไม่น้อยกว่าคู่ผสม จนยากที่จะบอกได้ว่า คู่ไหนจะเป็นคู่มือ 1 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย Badminton Asia Championships 2018 ที่จะแข่งขันที่เมือง Wuhan ในช่วงปลายเดือน

และน่าจับตาว่าจะมีนักแบดมินตันหญิงคนไหนในประเภทคู่ผสม ที่อาจจะถูกเรียกตัวมาเสริมทีมเพื่อร่วมศึก Uber Cup ในช่วงที่นักแบดมินตันหญิงคู่มาเลเซีย ทำผลงานได้ไม่ดีนัก