วันนี้(10ก.พ.) แบดมินตันชิงแชมป์เอเชียประเภททีม รายการ E-Plus Badminton Asia Team Championships 2018 ที่เมือง Alor Setar มาถึงรอบรองชนะเลิศ และทั้ง 4 ทีมในประเภททีมหญิงและทีมชาย ต่างก็การันตีว่าได้ผ่านเข้ามาแข่งขันรายการ Thomas & Uber Cup ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯในเดือนพฤษภาคม
 

สำหรับโปรแกรมวันนี้ ทีมหญิงจะแข่งขันตอนเที่ยงตามเวลาที่มาเลเซีย และทีมชายจะแข่งขันในเวลา 18.00น. โดยทีมหญิง จะเป็นการพบกันระหว่าง ญี่ปุ่นกับอินโดนีเซีย อีกคู่เป็นจีนกับเกาหลี ขณะที่รอบรองชนะเลิศทีมชาย คู่แรกเป็นจีนกับมาเลเซีย อีกคู่เป็นเกาหลีกับอินโดนีเซีย

มองจาก”ผลงาน”ในรายการนี้ ต้องถือว่า จีน เกาหลี อินโดนีเซีย เป็น 3 ชาติที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถเข้ามาในรอบนี้ทั้ง 2 ทีม ขณะที่ญี่ปุ่น เข้ามาในประเภททีมหญิง และมาเลเซีย ก็มีทีมชายเข้ามาถึงรอบนี้
 

โดยเมื่อมองจาก”ทีมวาง”ในการแบ่งกลุ่มทั้งชายและหญิงประเภทละ 4 ทีมนั้น ทีมชายได้แก่ จีน อินโดนีเซีย ไต้หวัน เกาหลี ขณะที่ทีมหญิง ก็มีญี่ปุ่น จีน เกาหลี และทีมชาติไทย นั่นหมายความว่า ในประเภททีมชาย ทีมวางที่ตกไปก็คือไต้หวันที่ถูกมาเลเซียแซงเข้ามา ขณะที่ทีมหญิง เป็นทีมไทยที่จกรอบ โดยมีอินโดนีเซียผ่านเข้ามารอบรองชนะเลิศแทน

แม้อาจจะไม่ถึงขั้นเสียหาย เพราะทีมชั้นนำของเอเชียแทบทั้งหมด จะสามารถเข้ามาร่วมศึก Thomas & Uber Cup ได้ตามโควตาอันดับโลก ขณะที่ไทยก็ได้สิทธิ์เข้าร่วมในฐานะ”เจ้าภาพ” แต่ก็มีบางสิ่งที่จะต้องบันทึกไว้
 

เริ่มที่ประเภททีมหญิง ซึ่งสำหรับทีมไทยนั้น ถือเป็นการ”ทดลองทีม” เพราะไม่มี”เมย์”รัชนก อินทนนท์ มือ 1 หญิงเดี่ยว และ "กิ๊ฟ-วิว" จงกลพรรณ กิตติธรากุล - รวินดา ประจงใจ ที่ได้พัก แต่ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม ก็ต้องถือว่าทำได้ดี เพราะชนะ 3 แมทช์รวด และการตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่พ่ายจีน 1-3 ก็ถือว่าไม่ผิดคาดมากนัก และต้องชื่นชมว่านักแบดมินตันหญิงหลายคน”สอบผ่าน” เช่น “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่เอาชนะ GOH Jin Wei ขวัญใจเจ้าภาพถึงถิ่นในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากที่เคยเจอมา 3 ครั้งและแพ้ทุกครั้ง แถมยังชนะ HE Bingjiao ในรอบ 8 ทีม ที่แสดงให้เห็นว่าเป็น”อนาคต”ของทีมชาติได้

 

ขณะที่”มาเลเซีย” ถือว่าผิดหวังมากที่สุด เพราะเป็นทีมหญิงส่งผู้เล่นชุดใหญ่ครบทีม แต่กลับตกรอบ 8 ทีม แถมแพ้เกาหลีขาดลอย 0-3 และนักกีฬามือ 1 ของทีมทั้งเดี่ยวและคู่ คือ GOH Jin Wei และคู่ Vivian HOO - WOON Khe Wei ก็สร้างผลงานน่าผิดหวัง แถม WOON Khe Wei ก็ได้รับบาดเจ็บ จนต้องให้ Jing Yi TEE อดีตมือ 1 หญิงเดี่ยวขึ้นมาจีบคู่กับ Vivian HOO ในแมทช์หลัง

 

เช่นเดียวกับอินเดีย ที่มีเพียง PUSARLA V. Sindhu เป็นคนเดียวที่ช่วยทีม และที่น่าผิดหวังสำหรับอินเดียก็คือ การที่ต้องให้รองแชมป์โลก รองแชมป์โอลิมปิกในประเภทหญิงเดี่ยว ต้องไปเล่นในประเภทคู่ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า”อินเดีย”จะขาดนักแบดมินตันหญิงคู่ระดับลงเล่นทีมชาติ

ขณะที่”ญี่ปุ่น”ถือว่าทำผลงานได้สมราคาเต็ง 1 ประเภททีมหญิง ที่นำนักกีฬาชุดใหญ่มาครบ และมีการ”พัก”ผู้เล่น ทั้ง Nozomi OKUHARA และ Akane YAMAGUCHI ไม่ต้องลงแข่งทุกวัน
 

ส่วนทีมชายนั้น ต้องถือว่า”มาเลเซีย” ที่ขนผู้เล่นชุดใหญ่มาครบ สามารถทำผลงานได้ตามเป้า และทำให้กองเชียร์ยังดีใจหลังจากทีมหญิงตกรอบ เพราะทีมชายของเจ้าภาพ เป็นทีมวางอันดับ 7 ด้วยซ้ำ แต่กลับเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย โดย LEE Chong Wei และ GOH V Shem - TAN Wee Kiong นักกีฬาเหรียญเงินโอลิมปิกชายเดี่ยวและชายคู่เป็นแกนนำ

ขณะที่ทีมที่น่าผิดหวังในประเภททีมชาย นอกจาก”ญี่ปุ่น” ที่เป็นทีมวางอันดับ 4 ที่ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว ต้องถือว่าไต้หวัน ทีมวางอันดับ 3 เป็นทีมที่น่าผิดหวังมากที่สุด ชนิดที่ต้องบอกว่า”หลุดฟอร์ม”ในนัดสุดท้ายของชายเดี่ยวกลุ่ม C ที่แพ้มาเลเซีย 0-5 แบบไม่เหลือฟอร์ม จนตกรอบแรก ทั้งๆที่เป็นทีมเต็งที่จะเข้ารอบร่วมกับไทย
 

ส่วนทีมญี่ปุ่นนั้น การกลับมาของ Kento MOMOTA รวมทั้งชายคู่อย่าง Takeshi KAMURA - Keigo SONODA และTakuro HOKI - Yugo KOBAYASH น่าจะผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศ แต่อาจจะถือว่าโชคร้ายที่ต้องเจออินโดนีเซีย ทีมเต็ง 2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จึงตกรอบอย่างน่าเสียดาย

 

ในขณะที่”จีน” ต้องถือว่ายังเป็นมหาอำนาจลูกขนไก่ เพราะแม้จะเป็นผู้เล่นดาวรุ่งทั้งทีมหญิงและทีมชาย โดยเฉพาะในประเภทคู่ที่ขาดแกนหลัก แต่สามารถผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศได้ไม่ยาก ซึ่งต่างจาก”อินเดีย”ที่เชื่อกันว่ากำลังพัฒนายกระดับตัวเอง แต่สุดท้าย กลับไม่มีทีมเข้ารอบรองชนะเลิศได้เลย

 

แม้อาจจะยังไม่สามารถชี้ได้ว่านี่จะเป็นเครื่องวัดฝีมือที่แท้จริง เพราะหลายทีมยังส่งผู้เล่นชุดใหญ่มาไม่ครบในศึกชิงแชมป์เอเชียประเภททีม แต่จีน เกาหลี และอินโดนีเซีย แสดงศักยภาพให้เห็นว่าพวกเขายังเป็น”ของจริง”ในโลกแบดมินตัน