ศึกแบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย รายการ E-Plus Badminton Asia Team Championships 2018 ที่ประเทศมาเลเซีย ต้องขอชื่นชมกับนักกีฬาทีมชาติไทย ทั้งทีมชายและทีมหญิง ที่การแข่งขันผ่านมา 2 วัน ถือว่าสร้างผลงานได้ดี ภายใต้การคัดเลือกนักกีฬาจากฝ่ายพัฒนาฯของสมาคมแบดมินตันไทยควบคุมโดย “นาวาอากาศเอก จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย” กุนซือของทีมชาติไทยที่นายกสมาคมไว้วางใจให้มาควบคุมฝ่ายพัฒนาฯ
|
|
สำหรับการแข่งขันที่เมืองอลอร์ สตาร์ ประเทศมาเลเซียครั้งนี้ ทีมไทยส่งนักกีฬาชาย 10 คนและหญิง 10 คน โดยทีมชาย ประกอบด้วย “ไบรท์” สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ , ”เพชร” โฆษิต เพชรประดับ, “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม , “กัน”กันตภณ หวังเจริญ , “ติน”ติณณ์ อิสริยะเนตร . “ดีโก้”กิตติศักดิ์ นามเดช , “บาส”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ , “สกาย”กิตตินุพงษ์ เกตุเรน , “ไอซ์”อิงครัตน์ อภิสุข และ“เอ” มณีพงศ์ จงจิตร |
ส่วนทีมหญิง นำทีมโดย”แน๊ต”ณิชชาอร จินดาพล ส่วนผู้เล่นคนอื่นได้แก่ “ครีม”บุศนันทนท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ,”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ,”แอนนา” นันทกานต์ เอี่ยมสะอาด , “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล , “เบสท์'' ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม , ''จ๋อมแจ๋ม'' ผไทมาส เหมือนวงศ์ , “เอ็มเอ็ม”สาวิตรี อมิตรพ่าย และ”มุก”พชรพรรณ ช่อชูวงศ์ |
|
|
|
|
การแข่งขันผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่ม 2 วัน ต้องถือว่าผลงานของนักกีฬาไทยสามารถทำได้ตามเป้าหมาย โดย”ทีมหญิง” สามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว หลังจากชนะ 2 แมทช์แรก และวันนี้(8ก.พ.) จะลงสนามแมทช์สุดท้ายพบมาเลเซีย ทีมเจ้าภาพเพื่อแข่งขันว่าทีมไหนจะเป็นที่ 1 ของสาย Y ขณะที่ทีมชาย ก็ถือว่าผ่านเข้ารอบเกือบ 100% แม้จะชนะมาเลเซีย 3-2 และแพ้ไต้หวัน 2-3 |
ขอเอ่ยถึง”ทีมชาย”ก่อน เพราะแม้จะยังไม่การันตีการเข้ารอบ เพราะผลงานชนะและแพ้ ทำให้มีคะแนนชนะ 3 แพ้ 3 คู่ ขณะที่มาเลเซีย ชนะพม่า 5-0 แพ้ไทย 2-3 ทำให้ชนะ 7 แพ้ 3 และวันนี้เป็นแมทช์สุดท้ายของทีมชายกลุ่ม C ที่จะเจอไต้หวัน ก็ต้องชนะเพื่อเข้ารอบ ขณะที่ไต้หวัน ชนะพม่า 5-0 ชนะไทย 3-2 จึงมีผล 8-2 วันนี้ชนะเท่าไรก็เข้ารอบ |
|
|
|
|
ขณะที่ไทย ชนะมาเลเซีย 3-2 แพ้ไต้หวัน 2-3 จึงมีคะแนนรวม 5-5 วันนี้เจอพม่า ที่กล่าวได้ล่วงหน้าเลยว่าชนะ 5-0 ทำให้จะมีผลงานเป็น 10-5 ดังนั้น มาเลเซียกับไต้หวัน จึงต้องแข่งกันเพื่อเข้ารอบคู่กับไทย โดยไต้หวันชนะก็จะเข้ารอบคู่กับไทย ส่วนมาเลเซีย ถ้าชนะ 5-0 หรือ 4-1 ไต้หวันจะตกรอบ แต่ถ้าชนะ 3-2 ทั้ง 3 ทีมก็ต้องกลับมานั่งนับคะแนนดิบว่าชนะกี่คู่ คะแนนเท่าไร |
ผลงานของทีมชายไทย จึงถือว่า”สอบผ่าน” เพราะมาร่วมกลุ่มในฐานะทีมที่ 3 ต่อจากไต้หวันที่เป็นทีมวางชองกลุ่ม และมาเลเซีย ทีมอันดับ 2 แต่กลับสร้างผลงานชนะมาเลเซีย และแพ้ไต้หวัน ที่ต้องชื่นชมนักกีฬาและโค้ชกับการตัดสินใจเลือกผู้เล่น |
|
|
|
|
โดยในวันแรกที่เอาชนะมาเลเซีย 3-2 นั้น นักกีฬาที่ทำ 3 คะแนนให้ไทย คือ ชายคู่ มือ 1 “บาส-สกาย”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - กิตตินุพงษ์ เกตุเรน ที่ชนะ GOH V Shem- TAN Wee Kiong 2-1 เกม 16-21 ,21-19 และ 22-20 ชายคู่มือ 2 ซึ่งไทยส่งคู่มือใหม่ “ติน-ดีโก้”ติณณ์ อิสริยะเนตร - กิตติศักดิ์ นามเดช ที่ชนะ ONG Yew Sin- TEO Ee Yi 21-17 , 21-11 และชายเดี่ยวมือ 3 “กัน”กันตภณ หวังเจริญ ชนะ Iskandar ZULKARNAIN 21-13 ,21-14 |
ในแมทช์ที่ 2 ที่แพ้ไต้หวันนั้น หลังจากคู่แรกในประเภทชายเดี่ยวมือ 1 ซึ่ง “เพชร” โฆษิต เพชรประดับ ชนะ WANG Tzu Wei มา 2 เกมรวด 21-19 ,21-17 แต่หลังจากนั้น นักแบดมินตันไต้หวันก็ชนะ 3 คู่รวดขึ้นนำ 3-1 ซึ่งความสำคัญอยู่ที่คู่สุดท้าย ชายเดี่ยวมือ 3 เพราะหากไต้หวันชนะ ก็จะเป็น 4-1 ซึ่งทำให้มีการคาดว่า ไต้หวันอาจจะเอาใจเจ้าภาพมาเลเซียในนัดสุดท้ายเพื่อควงกันเข้ารอบ พร้อมเขี่ยทีมชาติไทยตกรอบแบ่งกลุ่ม |
|
|
|
|
ซึ่งคู่สุดท้ายนี้ ทีมผู้ฝึกสอนเลือก “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม ลงสนามแทน”ไบรท์”สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ ที่แข่งติดมาหลายทัวร์นาเมนต์ และตะวันไม่ทำให้กองเชียร์ไทยผิดหวัง เมื่อพลิกเอาชนะ LIN Yu Hsien 2 เกมรวด 21-18 ,21-19 ทำให้ไทยตีตื้นมาเป็น 2-3 และมีโอกาสเข้ารอบเกือบ 100% |
สังเกตเห็นไหมว่า”ผู้ทำคะแนนสำคัญ”ของนักกีฬาทีมชายไทย ล้วนแต่เป็น”คลื่นลูกใหม่” ที่ยังสามารถใช้งานและเพิ่มประสบการณ์และฝีมือได้ ทั้งชายคู่ทั้ง 2 คู่และชายเดี่ยว คือ “บาส-สกาย”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - กิตตินุพงษ์ เกตุเรน , “ติน-ดีโก้”ติณณ์ อิสริยะเนตร - กิตติศักดิ์ นามเดช , “เพชร”โฆษิต เพชรประดับ , “กัน”กันตภณ หวังเจริญ และ “ตะวัน” ปัณณวิชญ์ ทองน่วม |
|
|
ส่วนทีมหญิง คงต้องยกย่องว่าในฐานะทีมวางในกลุ่ม Y ก็สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย คือชนะฟิลิปปินส์และเวียดนาม 5-0 ทั้ง 2 แมทช์ โดยใช้ผู้เล่นมาแล้ว 9 คน และเชื่อว่าแมทช์สุดท้ายกับมาเลเซียวันนี้(8ก.พ.) ที่ ซึ่งจะเป็นการแข่งขันเพื่อหาทีมอันดับ 1 และ 2 น่าจะเป็นโอกาสของ”แอนนา” นันทกานต์ เอี่ยมสะอาด นักแบดมินตันดาวรุ่งหญิงเดี่ยวคนเดียวที่ยังไม่ได้ลงสนาม ได้ลงไปหาประสบการณ์และทดสอบจิตใจกับนักกีฬาเจ้าภาพ ซึ่งไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ..ก็ได้ประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้แน่นอน
ทั้ง 20 นักกีฬาชายหญิงและทีมโค้ชผู้ฝึกสอน จึงควรได้รับคำยกย่องชมเชยในผลงานศึกชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้