สำหรับปี 2018 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของนักแบดมินตันระดับโลก เมื่อสหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ได้จัดและเรียกโปรแกรมการแข่งขันใหม่ที่เรียกว่า World Tour ที่มีเงินรางวัลเพิ่มขึ้นในทุกระดับของการแข่งขัน และคาดหวังว่าจะดึงให้นักแบดมินตันมือดีทั่วโลกโชว์ฟอร์มดี
|
|
โดยนักแบดมินตันที่ลงแข่งขันใน Level 1 และ 2 จะได้รับเงินเพิ่มขึ้น โดย”แชมป์” World Tour Finals 2018 ซึ่งเป็นการแข่งขัน Level 1 ชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านเหรียญ ผู้ชนะเลิศประเภทเดี่ยว จะได้รับรางวัลรวม 8 เปอร์เซ็นต์ของรางวัลรวม หรือ 120,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่แชมป์ประเภทคู่ จะได้รับเงินรางวัล 8.4 เปอร์เซ็นต์ หรือรวมกันเป็นเงิน 126,000 เหรียญ ส่วนรองชนะเลิศจะได้ 60,000 เหรียญ |
ส่วนผู้ที่ได้อันดับ 3 ร่วม ก็จะมีเงินรางวัลเพิ่มขึ้น คือประเภทเดี่ยว รายละ 9,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ประเภทคู่ จะได้รับเงินรางวัลคู่ละ 10,500 เหรียญสหรัฐ |
|
|
|
|
สำหรับการแข่งขันใน Level 2 และ 3 ผู้ชนะเลิศประเภทเดี่ยว จะได้รับเงินรางวัล 7 เปอร์เซ็นต์จากเงินรางวัลรวม ขณะที่แชมป์ประเภทคู่ จะได้รับเงินรางวัลคู่ละ 7.40 เปอร์เซ็นต์ของรางวัลรวม |
ขณะที่”รายการใหญ่” ใน Level 2 ทั้ง 3 รายการ คือ All England, China Open และ Indonesia Open ที่มีเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญขึ้นไปนั้น การแข่งขัน Indonesia Open ที่ชิงเงินรางวัล 1.25 ล้านเหรียญสหรัฐ กำหนดให้”แชมป์ประเภทเดี่ยว ได้รับคนละ 87,500 เหรียญสหรัฐและประเภทคู่ แชมป์ได้รับ 92,500 เหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าปีก่อน ที่แชมป์ประเภทเดี่ยวได้รับ 75,000 เหรียญสหรัฐและประเภทคู่ 79,000 เหรียญสหรัฐ จากเงินรางวัลรวม 700,000 เหรียญสหรัฐ |
|
|
|
|
ส่วน All England และ China Open ได้กำหนดรางวัลเงินรางวัลใหม่ โดยแชมป์ประเภทเดี่ยว จะได้รับเงินรางวัล 70,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่แชมป์ประเภทคู่ จะได้รับเงินรางวัล 74,000 เหรียญสหรัฐ ส่วนผู้ผ่านเข้ารอบรอชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัลคนละ 14,000 เหรียญสหรัฐ |
BWF ยังเชื่อว่า โครงสร้างการแบ่งเงินรางวัลใหม่นี้ จะสร้างความมุ่งมั่นให้นักกีฬาแสดงผลงานเพื่อถูกเรียกเข้าร่วมแข่งขัน เพราะแม้จะตกรอบแรก แต่ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันใน Level 2 และ 3 จะไม่กลับบ้านมือเปล่าแน่นอน โดยผู้แข่งขันที่ตกรอบแรก จะได้รับเงินรางวัล 0.10 เปอร์เซ็นต์ของเงินรางวัลรวม |
|
|
|
|
ซึ่งในกรณีของศึก Indonesia Open หมายถึงผู้เล่นประเภทเดี่ยวที่ตกรอบแรก ก็จะได้รับเงินรางวัล 1,250 เหรียญสหรัฐ ส่วนผู้แพ้ในรอบรองชนะเลิศที่พลาดการแข่งขันในวันสุดท้าย จะมีเงินกลับบ้าน 17,500 เหรียญสหรัฐ |
ส่วน All England และChina Open ผู้ชนะเลิศประเภทเดี่ยวจะได้เงินรางวัล 70,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่แชมป์ประเภทคู่ จะได้รับคู่ละ 74,000 เหรียญสหรัฐ ส่วนผู้แพ้ในรอบรองชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 14,000 เหรียญสหรัฐ |
|
|
|
|
สำหรับผู้เข้าแข่งชันใน Level 4 ถึง 6 แชมป์ในประเภทเดี่ยว จะได้รับเงินรางวัลคนละ 7.50 เปอร์เซ็นต์ของเงินรางวัลรวม ส่วนแชมป์ประเภทคู่ จะได้รับรางวัลเป็นเงิน 7.90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินรางวัลทั้งหมด ส่วนผู้แพ้ในรอบที่ 16 คนสุดท้าย จะได้รับ 0.35 เปอร์เซ็นต์ในประเภทเดี่ยว และ 0.375 เปอร์เซ็นต์ของกระเป๋าเงินรางวัลทั้งหมดสำหรับนักกีฬาประเภทคู่ |
BWF เชื่อว่า เงินรางวัลที่เพิ่มขึ้น จะจูงใจและทำให้แบดมินตันในปีนี้สนุกและตื่นเต้นมากขึ้น