มาถึงตอนจบของบันทึกผลงานของนักแบดมินตันไทยประจำปีนี้ ซึ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้าย กล่าวได้ว่าเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เพราะ 4 ทัวร์นาเมนต์ Superseries สุดท้าย จะเป็นการตัดสินสุดท้ายว่านักแบดมินตันคนไหนที่จะได้ไปร่วมศึก Dubai World Superseries Finals 2017 ที่เป็นรายการใหญ่เพื่อ”ตอบแทน”นักกีฬาที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี

สำหรับนักกีฬาของไทยนั้น น่าเสียดายที่”ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้รับบาดเจ็บในรอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงเดี่ยวซีเกมส์ ทำให้อดไปร่วมศึกสุดท้ายประจำปีที่สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) จัดขึ้นเพื่อให้”โบนัส”สำหรับนักกีฬาที่ทำผลงานดี เพราะก่อนบาดเจ็บ ในประเภทคู่ผสมที่”ปอป้อ”ลงเล่นกับ”บาส” เดชาพล พัววรานุเคระห์ อันดับโลกอยู่ที่ 7 และคะแนน DESTINATION DUBAI RANKINGS อยู่ที่อันดับ 7 หลังจากทำผลงานได้ดีหลายทัวร์นาเมนต์ ส่วนในประเภทหญิงคู่กับ”เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล คะแนนและอันดับก็ติดทอปเทนที่มีโอกาสไปร่วมศึกชิงชัยที่ดูไบ
   
รายการแรกที่นักกีฬาไทยเดินทางไปแข่งขันในเดือนตุลาคม คือ DANISA Denmark Open 2017 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ Superseries Premier ที่เมือง Odense ประเทศเดนมาร์ค และเป็น”เมย์” รัชนก อินทนนท์ สามารถคว้าแชมป์หญิงเดี่ยว เมื่อเอาชนะ Akane YAMAGUCHI ในรอบชิง 2-1 เกม 14-21,21-15 และ 21-19 พร้อมการันตีสิทธิ์การไปร่วมศึก Dubai World Superseries Finals 2017
   
 

ส่วนนักกีฬาไทยคนอื่นที่ไปแข่งขันรายการนี้ ต่างก็ตกรอบ 2 แบบไม่ได้นัดหมาย รวมทั้ง “สอง”ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ที่พ่าย LEE Hyun Il แมวเก้าชีวิตจากเกาหลี 1-2 เกม 21-15 ,19-21 และ 21-14 และสิงห์เฒ่าจากเกาหลีก็สร้างประวัติศาสตร์ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ Superseries ในสถานะนักกีฬาชายเดี่ยวที่อายุมากที่สุด คือ 37 ปี

   

ในช่วงเดียวกันคือต้นเดือนถึงกลางเดือนตุลาคม ก็มีศึกชิงแชมป์เยาวชนโลก BWF World Junior Championships 2017 ที่เมือง Yogyakarta ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งในประเภททีมผสม ทีมไทยได้อันดับ 5-8 เมื่อแพ้เกาหลีในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ในประเภทบุคคล น่ายินดีที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ชายเดี่ยวคนแรก หลังจากที่เราเคยมีแชมป์หญิงเดี่ยวและแชมป์ชายคู่มาแล้วหลายครั้ง ส่วนที่น่าเสียดายก็คงเป็น “จิว” ภัทรสุดา ไชยวรรณ มือ 1 ของรายการที่ตกรอบ Quarter Finals ไปพร้อมกับ “แนน" ชนัญชิดา จูเจริญ

สัปดาห์ต่อมา คือ 24-29 ตุลาคม ก็ยังเป็นรายการ Superseries ในยุโรป นั่นคือ YONEX French Open 2017 ที่มหานครปารีส ซึ่งคราวนี้ นักแบดมินตันไทยมาได้ไกลสุดแค่รอบ Quarter Finals ทั้งหญิงเดี่ยว เมย์ รัชนก อินทนนท์ และคู่ผสม “บาส-เอิร์ธ”
 

แต่ก่อนที่จะกลับเมืองไทย นักกีฬาก็แวะแข่งขันรายการระดับ Grand Prix Gold ที่เยอรมัน นั่นคือศึก Bitburger Badminton Open 2017 ซึ่งนักตบลูกขนไก่ไทยก็สร้างผลงานดี ได้แชมป์ 2 ประเภท คือหญิงเดี่ยว “แน๊ต”ณิชชาอร จินดาพล และหญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิติธรากุล - รวินดา ประจงใจ ขณะที่ชายคู่”อาร์ท-ต้นน้ำ” บดินทร์ อิสสระ – นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร พลาดท่าพ่ายคู่แชมป์จากเดนมาร์คในรอบชิงชนะเลิศ

 
ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะมี 2 รายการ Superseries สุดท้าย แต่การเริ่มต้นในรายการระดับ Grand Prix Gold ที่มาเก๊า ปรากฏว่านักกีฬาทีมชาติชุดใหญ่ไม่ได้เดินทางไปแข่งขันเพื่อปรับสภาพร่างกายเหมือนชาติอื่น ทำให้สัปดาห์ต่อมาในรายการ TAHOE China Open 2017 ซึ่งเป็นการแข่งขัน Superseries Premier ที่เมือง Fuzhou มีเพียง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ มาผ่านมาถึงรอบรอง ก่อนจะพ่าย Akane YAMAGUCHI ไปแบบน่าเสียดาย 

สิ่งที่น่าสนใจในรายการนี้ก็คือผลงานนักแบดมินตันจีน เพราะในประเภทชายเดี่ยว CHEN Long คว้าแชมป์เมื่อเอาชนะมือ 1 โลก Viktor AXELSEN พร้อมการันตีการไปชิงชัยที่ดูไบ ขณะที่หญิงเดี่ยว โลกแบดมินตันก็รู้จักชื่อ GAO Fangjie สาววัย 19 ที่ผ่านมาถึงรอบชิง และสร้างผลงานชนะนักแบดมินตันหญิงเดี่ยว 3 เหรียญโอลิมปิก 2016 ในรายการนี้จากสเปน อินเดียและญี่ปุ่น
 
ถัดมาอีกสัปดาห์ เป็นทัวร์นาเมนต์ Superseries ของปี นั่นคือ YONEX-SUNRISE Hong Kong Open 2017 ซึ่งนักกีฬาไทยสามารถผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศได้ 2 ประเภท คือเมย์ รัชนก ในประเภทหญิงเดี่ยว ก่อนจะพ่าย PUSARLA V. Sindhu และหญิงคู่ ”กิ๊ฟ-วิว” ที่พ่ายคู่มือ 1 โลก CHEN Qingchen - JIA Yifan ในรอบรองฯ และกล่าวได้ว่า นี่คือรายการสุดท้ายประจำปี 2017 ของนักกีฬาไทย
 

เพราะในช่วงวันที่ 13-17 ธันวาคม ซึ่งเป็นการแข่งขัน Dubai World Superseries Finals 2017 นักแบดมินตันไทยมีเพียง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่สามารถทำคะแนนสะสมมาถึงรอบนี้ได้ โดยน่าเสียดายที่”ปอป้อ”บาดเจ็บ และน่าศึกษาว่าใน 5 ประเภทที่ได้แชมป์ครั้งนี้ในปีนี้ มาจากนักกีฬา 5 ชาติโดยไม่มีนักแบดมินตันชาติไหนได้แชมป์มากกว่า 1 ประเภท ทั้งๆที่มีญี่ปุ่นและจีน เข้าชิง 2 ประเภท และไม่มีนักกีฬาจากเกาหลีได้เข้าชิงแม้แต่ประเภทเดียว

Badmintonthaitoday คงไม่สรุปว่าผลงานของนักกีฬาไทยประจำปี 2017 ดีมากแค่ไหน แต่ภาพรวมที่มี”แชมป์”ติดมือกลับมาฝากคนไทยในทุกระดับถือว่าเป็นผลงานที่สมาคมแบดมินตันฯคงไม่อายสมาคมแบดมินตันฯของชาติไหนแน่นอน
 

อย่างไรก็ตาม badmintonthaitoday เคยเขียนถึงไว้แล้วว่า ปัญหาหนึ่งของทีมแบดมินตันไทยก็คือ ทุกวันนี้ยังมีนักกีฬาที่เป็นตัวเลือกไม่มากนัก เพราะทีมชาติไทยชุดใหญ่มีเพียงประมาณ 20 คนเท่านั้น และในรอบหลายปีที่ผ่านมา ดูเหมือนนักกีฬารุ่นใหม่ ยังได้รับโอกาสลงสนามแข่งขันในต่างประเทศน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายชาติ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย มาเลเซีย

ถ้าปี 2017 ที่กำลังจะผ่านไป ถือว่าผลงานของนักกีฬาแบดมินตันไทย”สอบผ่าน” ก็ต้องระบุว่า ปี 2018 ที่กำลังจะมาถึง ผลงานของนักกีฬาไทย จะต้องทำได้ดีกว่า”สอบผ่าน” และ badmintonthaitoday พร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยเสมอ