ปัจจุบัน หลายๆประเทศมี”ลีกแบดมินตัน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ตามที่ผู้จัด ซึ่งอาจจะเป็นสมาคมแบดมินตันของประเทศนั้นๆ ผ่านการจัดตั้งบริษัทขึ้นมา แบบเดียวกับที่สมาคมฟุตบอลประเทศต่างๆจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศ แต่ตั้งเป็น”บริษัท” ขึ้นมาเป็นนิติบุคคลเพื่อดำเนินการ เช่น ไทยเองก็มี บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ขึ้นมาจัดการแข่งขันลีกฟุตบอลในประเทศ
 

แฟนแบดมินตันไทยอาจจะคุ้นเคยกับลีกแบดมินตันจีน เพราะ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ถูก”ซิงเต่า”ซื้อตัวไปร่วมทีมหลายปีติดต่อกัน รองมาก็เป็นลีกอินเดียที่มีเงินรางวัลสูงสุด และนักแบดมินตันไทยหลายคนก็ถูกซื้อตัวไปร่วมทีม เช่นเดียวกับลีกอินโดนีเซียและลีกมาเลเซีย ที่นักกีฬาไทยหลายคน”เนื้อหอม”ถูกซื้อตัวไปร่วมทีมต่างๆในการแข่งขัน

 
แต่วันนี้ อยากพูดถึง”ลีกญี่ปุ่น” หรือ BADMINTON S / J LEAGUE ที่แฟนแบดมินตันไทยอาจจะไม่คุ้นเคยมากนัก
   

ที่ต้องเขียนถึงลีกแบดมินตันญี่ปุ่น เพราะทุกวันนี้ กล่าวได้ว่า”ญี่ปุ่น” เป็นชาติที่มีนักกีฬาติดอันดับโลกในประเภทต่างๆไม่น่อยหน้าจีน โดยเฉพาะ”ทีมหญิง”ที่กล่าวได้ว่าในศึก Uber Cup 2018 ที่จะจัดในกรุงเทพฯปีหน้า ทีมชาติญี่ปุ่นน่าจะเป็น”เต็งหนึ่ง” เพราะใน 20 อันดับโลกหญิงเดี่ยววันนี้(26ก.ย.) มีนักแบดมินตันญี่ปุ่นอยู่ถึง 6 คน ขณะที่จีนมีแค่ 4 คน ไทย 3 คน อินเดีย 2 คน อีก 5 คนไม่ซ้ำสัญชาติ ส่วน”หญิงคู่”นั้น ในทอปเทน มีนักแบดมินตันหญิงคู่ญี่ปุ่นอยู่ถึง 4 คู่

ทั้ง 6 คนก็คือ Akane YAMAGUCHI อยู่อันดับ 4 Nozomi OKUHARA อยู่อันดับ 8 Aya OHORI อันดับ 13 Sayaka SATO อันดับ 14 Saena KAWAKAMI อันดับ 19 และ Minatsu MITANI อันดับ 20
 

ส่วนหญิงคู่นอกจาก Misaki MATSUTOMO กับ Ayaka TAKAHASHI ที่เป็นคู่มือ 1 โลกแล้ว ก็มี Yuki FUKUSHIMA กับ Sayaka HIROTA อยู่อันดับ 5 Shiho TANAKA กับ Koharu YONEMOTO อยู่อันดับ 8 และคู่ Naoko FUKUMAN กับ Kurumi YONAO อยู่อันดับ 9

   

ทั้งหมดของการ”สร้างทีม”จนญี่ปุ่นสามารถเพิ่มขนาดของทีมจนมีนักกีฬาแบดมินตันมือดีมากมาย ก็มาจาก”ลีกแบดมินตัน”นี่แหละ เพราะลีกแบดมินตันญี่ปุ่น อาจจะมี”เป้าหมาย”ต่างจากจีน อินเดีย หรืออินโดนีเซีย แต่ก็มีเป้าหมายเหมือนมาเลเซีย นั่นคือต้องการแสวงหา”ดาวรุ่ง”มาป้อนทีมชาติ ญี่ปุ่นจึงมีนักกีฬาต่างชาติที่ถูกซื้อตัวมาร่วมทีมน้อยมาก

 

ลีกแบดมินตันญี่ปุ่น เริ่มขึ้นเมื่อปี 1979 จนถึงปัจจุบัน มีการแข่งขันแบ่งเป็นประเภททีมหญิงและทีมชาย โดยทีมชายนั้น ยุคแรกมี NTT Tokyo • Electric Tokyo เป็นราชา ขณะที่ทีมหญิง ก็มี Suntory เป็นทีมที่คว้าแชมป์ติดต่อกัน จนกระทั่งในปี 2005 เมื่อ Nihon Unisys ได้เข้าร่วมแข่งขัน พวกเขาก็เริ่มเป็นมหาอำนาจลูกขนไก่ลีกญี่ปุ่น แซงหน้ามหาอำนาจเดิมอย่าง Sanyo Electric Co. และ Suntory มีอำนาจสูงสุดเป็นเวลานานในช่วงต้นถึงระยะกลาง

 

นับถึงปัจจุบัน ลีกญี่ปุ่นมีทีมชาย 8 ทีมและทีมหญิง 8 ทีม โดยระบบแข่งขันจะเป็นแบบ”พบกันหมด”เหมือนฟุตบอลลีก โดยปีนี้ การแข่งขันจะเริ่มในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายนและอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน วันละ 4 คู่ ในหลายๆเมือง เช่น คูมาโมโตะ ฟูกูจิมา ฯลฯ โดยจะปิดฤดูกาลในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์

ที่ต้องแข่งยาวนาน 3-4 เดือน ก็เพราะการแข่งขันแม้จะพยายามให้มีทุกสัปดาห์แบบลีกฟุตบอลที่เราคุ้นเคย แต่เนื่องจากในบางช่วง จะติดโปรแกรมการแข่งขันของ BWF เช่นโปรแกรม Superseries Final ที่ดูไบ ก็จะไม่มีการแข่งขัน โดยมีการ”พักยาว” คือหลังแข่งขันแมทช์ที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน ก็จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 23 ธันวาคมเป็นวันที่ 3 ของการแข่งขัน และวันที่ 24 ก่อนจะพักไปแข่งขันอีก 4 วันในเดือนมกราคมที่ไม่มีโปรแกรมระดับใหญ่ที่นักกีฬาดังจะต้องเดินทางไปแข่งขัน
 
เอาตัวอย่างการจัดการแข่งขัน”ลีกญี่ปุ่น”มาให้รู้เพื่อให้เห็นว่า”ลีกแบดมินตัน”คือแผนพัฒนาทีมชาติชั้นดี และต้องแข่งขันแบบ”ลีก”จริงๆ คือมีทีมมากมายและโปรแกรมกำหนดล่วงหน้า ไม่ใช่อยากจะจัดก็จัด เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่แบบบ้านเรา ที่เหมือนจะเริ่มต้นดีก่อนจะลงท้ายเละเทะ แบบไม่มีที่มาที่ไป

(ดอกปีกไก่)