เพราะมีการแข่งขันหลายรายการ ทำให้ถึงปัจจุบัน ทีมแบดมินตันชาติต่างๆทั้งอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน กระทั่งจีน ก็จะเรียกใช้งานนักแบดมินตันมากมายที่พยายามแบ่งตามระดับของรายการออกไปแข่งขัน ทั้งเพื่อทดสอบฝีมือ จนถึงพัฒนาฝีมือ เพราะการออกไปแข่งขันและเจอกับนักแบดมินตันชาติอื่น ยังไงก็ดีกว่าซ้อมอยู่ในประเทศและเจอแต่คู่ซ้อมหน้าเดิมๆ |
สำหรับประเทศไทย ไม่นับรายการระดับ Superseries และ Grand Prix Gold ก็ดูเหมือนจะมีเพียง”บ้านทองหยอด” กับ”แกรนนูลาร์” ที่ส่งนักกีฬาไปแข่งขัน และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นักกีฬาไทยจากทั้ง 2 สโมสร ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด เช่นที่ "เบสท์-จ๋อมแจ๋ม" ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม กับ ผไทมาส เหมือนวงศ์ เพิ่งคว้าแชมป์หญิงคู่รายการ YONEX SUNRISE Vietnam Open 2017 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่เวียดนาม |
ที่ต้องยกเรื่องนี้มาเอ่ยถึงอีกครั้ง เพราะในวันนี้(22ก.ย.) ในการแข่งขันรอบ 8 คนสุดท้าย หรือ Quarter Finals รายการ DAIHATSU YONEX Japan Open น่าสนใจและต้องบอกว่าแปลกใจ เพราะไม่มีนักแบดมินตันไทยมาถึงรอบนี้เลยแม้แต่คนเดียว |
คำตอบที่ชัดเจนที่สุดก็คือ”ขนาดของทีม” ที่ทำให้นักแบดมินตันของไทยจำนวนมากขาด”แรงกระตุ้น” ที่จะพัฒนาฝีมือ เพราะหากพูดกันแบบอาจจะทำร้ายจิตใจนักกีฬาก็คือ โอกาสติดทีมชาติของนักกีฬาหลายคนเป็น”ของตาย” เพราะนักกีฬาหน้าใหม่แทบจะไม่มีโอกาสถูกเลือกติดทีมชาติ ทำให้นักกีฬา”คนหน้าเดิม”ขาดแรงจูงใจที่จะเอาชนะและสร้างผลงาน |
ต่างจากนักกีฬาจีนที่ถ้าเจอกันเองในทุกเวทีแข่งขันก็จะเล่นกันแบบ”เอาเป็นเอาตาย” เหมือนที่มีคำกล่าวว่า “ไม่มีที่ยืนสำหรับคนแพ้”ในประเทศจีน เพราะคนชนะจะรับ”ทุกอย่าง”ตั้งแต่ชื่อเสียงเกียรติยศไปจนถึงหน้าที่การงานเมื่อกลับบ้าน ขณะที่คนแพ้ ต้องกลับไปฝึกหนักเพื่อเลียแผลใจ |
ตัวอย่างเช่น”หญิงเดี่ยว”ในการแข่งขันที่โตเกียวรอบ 8 คนสุดท้ายวันนี้ ปรากฏว่า”ญี่ปุ่น” มีนักกีฬาผ่านมาในรอบนี้ถึง 4 คนคือ Nozomi OKUHARA แชมป์โลกคนล่าสุด Akane YAMAGUCHI มือ 2 หญิงเดี่ยวโลก Sayaka TAKAHASHI ที่ไปคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวที่เวียดนามรายบการเดียวกับ”เบสท์-จ๋อมแจ๋ม” และ Aya OHORI ที่แฟนๆชาวไทยคุ้นหน้าดี |
หรือ”จีน”ที่มักจะแซวกันว่า”หมดยุคหญิงเดี่ยว”หลังจาก 2 หวัง 1 หลี่เลิกเล่น ก็ยังมีนักตบลูกขนไก่สาวยุคใหม่ผ่านเข้ามาในรอบ Quarter Finals ถึง 2 คนคือ CHEN Yufei แชมป์เยาวชนโลกคนล่าสุด และ HE Bingjiao |
ประเภทหญิงคู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะรอบนี้ 4 คู่ 16 คนที่เจอกัน เป็นเรื่องของ 2 ชาติเท่านั้น นั่นคือญี่ปุ่น ที่มีนักแบดมินตันหญิงคู่ผ่านมาในรอบนี้ได้ถึง 5 คู่ ส่วนอีก 3 คู่มาจากเกาหลี |
ที่เขียนมา ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า”ขนาดของทีม”ยังไงก็สำคัญ และสิ่งที่ทำได้ก็คือ การส่งนักกีฬาไปแข่งขันให้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องรอเฉพาะรายการใหญ่ที่จะส่งนักกีฬาไปแข่งขัน โดยเฉพาะ”สายเลือดใหม่”ที่น่าจะได้รับโอกาสมากขึ้นเพื่อไป”ทดสอบฝีมือ” และเป็นแรงกดดันให้นักกีฬาทีมชาติชุดปัจจุบันพัฒนาฝีมือมากขึ้น |