กล่าวได้ว่านักแบดมินตันชายของมาเลเซีย ประสบความล้มเหลวในการแข่งขันทุกรายการในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งการแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่ Lee Chong Wei ตกรอบแรกทั้งๆที่มีเป้าหมายเป็นแชมป์ ส่วนการแข่งขันซีเกมส์ในบ้านเกิด Iskandar Zulkarnain Zainuddin ผู้ถูกวางเป็น”ทายาท”ของ”เทพลี” ก็ล้มเหลวล้มเหลวไม่มีเหรียญรางวัลติดมือ ขณะที่ทีมชายก็ได้แค่เหรียญเงิน ต่างจากนักแบดมินตันหญิงที่ Goh Jin Wei ได้เหรียญทองหญิงเดี่ยว
 

ความล้มเหลวของนักแบดมินตันชายครั้งนี้ Datuk Misbun Sidek หัวหน้าโค้ชทีมชาติมาเลเซีย ยอมรับว่าเป็นเรื่องเจ็บปวดที่ผลงานออกมาเช่นนั้น แต่ก็ถือเป็นบทเรียน หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 

“ผมมารับงานนี้ 8 สัปดาห์แล้ว เรายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ผมมีแผนสำหรับการช่วยจุดแข็งและจุดอ่อนของผู้เล่นทุกคน ตอนนี้เราจะมีแผนเฉพาะสำหรับพวกเขาแล้ว" หัวหน้าโค้ชทีมชาติมาเลเซียกล่าว โดยสรุปสั้นๆถึงผลงานของนักตบลูกขนไก่ของเขาว่า “เรามีฝีมือ แต่ไม่มีผลงาน”

ทั้งนี้ Misbun Sidek มั่นใจว่า ในการแข่งขันโทมัสคัพรอบสุดท้ายที่กรุงเทพมหานครในปีหน้า(2018) ทีมชาติมาเลเซียจะ”พร้อม”มากกว่านี้ รวมทั้งให้จับตามอง Leong Jun Hao แชมป์เยาวชนเอเชียในการแข่งขันที่กรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนก่อนว่าจะมีพัฒนาการแค่ไหน 
 

หัวหน้าโค้ชแบดมินตันมาเลเซียยืนยันว่า การพ่ายแพ้ตกรอบแรกในศึกชิงแชมป์โลกของ Lee Chong Wei ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าอดีตมือ 1 โลกฟอร์มตก แต่ก็ได้เห็นจุดที่ต้องแก้ไข และตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ได้เตรียมแผนการฝึกซ้อมไว้แล้ว

 

“ผมกลับมาด้วยความคิดใหม่หลังจากเลิกไป 7 ปี และ Chong Wei ได้รับการฝึกซ้อมภายใต้โค้ชที่แตกต่างกัน จึงอาจมีความสับสนบางอย่าง แต่ผมขอไม่พูดถึงเพราะผมเคารพทุกคน จึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรก็ได้” Misbun Sidek กล่าว พร้อมย้ำว่า ทีมงานมีหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อให้”เทพลี”กลับมามีความมั่นใจในการลงสนาม เพราะเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าฝีมือยังเป็นหนึ่ง

 

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้(6ส.ค.) Misbun Sidek จะพบกับ  Datuk Seri Norza Zakaria นายกสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย รวมทั้ง  Morten Frost ประธานฝ่ายเทคนิค เพื่อหารือเรื่องการเตรียมทีมมาเลเซียในรายการต่อไป