แม้ว่า”แบดมินตัน” เป็นหนึ่งในกีฬาที่ถูกเรียกขานว่าเป็นกีฬาสมัยใหม่ที่เกิดการแข่งขันเป็นทางการครั้งแรกๆในอังกฤษ และ All England ถือเป็นทัวร์นาเมนต์การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่นักกีฬาแบดมินตันโอลิมปิกของอังกฤษ ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลมากนัก
เช่นเดียวกัน Gail Emms ที่เหรียญเงินแบดมินตันโอลิมปิก 2004 ที่เอเธนส์ในการเล่นร่วมกับ Nathan Robertson
|
|
"ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันไม่สามารถเรียกตัวเองว่า Gail Emms นักกีฬาแบดมินตันเหรียญเงินโอลิมปิกอีกต่อไป" Gail Emms ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ MBE หลังได้รับเหรียญโอลิมปิกของเธอหลังจากที่เธอและ Nathan Robertson ได้รองแชมป์โอลิมปิก หลังพ่ายแพ้ Gao Ling กับ Zhang Jun นักแบดมินตันจีนในรอบชิงชนะเลิศ |
ผ่านมาแค่ 13 ปี อดีตนักกีฬาวัย 40 ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ยอมรับว่าชีวิตตกต่ำ ไม่มีงานทำ ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงครอบครัว ทั้งๆที่เธอคือ”ตำนาน” เมื่อครั้งเป็นนักกีฬาทีมชาติ ผู้สร้างผลงาน ประสบความสำเร็จในกีฬาแบดมินตันเหรียญโอลิมปิก เป็นแชมป์โลก World Championship mixed doubles gold 2006 และคว้าเหรียญทอง Commonwealth หรือ กีฬาเครือจักรภพอีก 2 ครั้ง
แต่เมื่อรีไทร์เลิกรา เธอกลับพบว่าเธอไม่เหลืออะไร และการดำรงชีวิตในฐานะ”แม่” กับลูกชายที่กำลังโต 2 คนไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เมื่อไม่สามารถหางานได้ ทั้งๆที่ 13 ปีก่อนนั้น เธอคือ”วีรสตรี”ในวงการกีฬาของชาติ |
|
|
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน มันเหมือนกับการบ่งบอกว่าทุกคนมองฉันเหมือนขยะ” อดีตเหรียญเงินโอลิมปิกและแชมป์โลกคู่ผสมแบดมินตันของอังกฤษกล่าว โดยเปิดเผยว่า “การพักร้อน”ของเธอก็คือ การกางเต้นท์ในสวนหลังบ้าน ขณะที่ลูกชายทั้ง 2 ก็ไม่สามารถออกไปร่วมค่ายฟุตบอลของโรงเรียน และไม่เคยมีโอกาสดูหนังเหมือนคนอื่นๆ เพราะเงินแค่ 20 ปอนด์สำหรับเดินทางโดยรถไฟไปลอนดอนก็เป็นเงินมากเกินไปสำหรับครอบครัว
|
|
ทั้งนี้ Emms ได้ยอมรับอย่างเปิดอกว่าเธอกำลังต่อสู้กับภาวะโรคซึมเศร้าหลังเลิกเล่นแบดมินตันพร้อมพบกับ”ความว่างเปล่า” แต่เธอเชื่อว่าสามารถผ่านความยากลำบากเหล่านี้ได้ แม้มันจากยากลำบากแค่ไหน เพราะเมื่อตอนที่ได้รับรางวัลมากมาย สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือ คิดว่าที่เธอทำและประสบความสำเร็จ มันเป็นการทำที่ดีเพื่อตัวของเธอเอง |
“ในการแข่งขันกีฬา คุณรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อเอาชนะ และเมื่อคุณแพ้ คุณก็จะเรียนรู้จากมันเพื่อพีฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังทำ คือฝึกฝนตัวเองให้พร้อมที่จะรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะในตอนนี้ ฉันอยู่ในโลกที่ฉันไม่รู้จักมันเลย"
Gail Emms ยอมรับว่าเธอหยิ่งเมื่อเลิกเล่น เพราะมั่นใจว่าจะมีงานดีๆเข้ามาจากการเล่นกีฬาและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ โดยถูกชิญไปเป็นวิทยากรมากมายหลายครั้งไปกล่าวเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้นักกีฬารุ่นใหม่ โดยมีงานเหล่านี้เข้ามาสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่เมื่อถึงวันนี้ มันเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว และมันไม่ได้เป็นงานที่ถาวรและพึ่งพาได้ |
|
|
|
|
ตอนนี้ Gail Emms ยอมรับว่า เธอต้องการความช่วยเหลือ และเรื่องราวของเธอ น่าจะกระตุ้นให้การกีฬาของภาครัฐ”ใส่ใจ”นักกีฬาที่เคยสร้างชื่อเสียงกับประเทศชาติ...ทุกชาติ |