การแข่งขันแบดมินตัน "เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2017" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมเงินรางวัลรวม 1,020,000 บาท ที่ศูนย์ฝึกแบดมินตัน และวิทยาศาสตร์การกีฬา สนง.ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
 

รอบชิงชนะเลิศ ชายเดี่ยว "สอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข แชมป์เก่า จากทหารอากาศ พลาดท่าพ่าย รุ่นน้อง "กัน" กันตภณ หวังเจริญ ดาวรุ่งวัย 18 ปี จากทหารอากาศ 21-17, 18-21, 22-20 ทำให้ กันตภณ ผงาดครองแชมป์ได้เป็นครั้งแรก

 

หญิงเดี่ยว เป็นการรีแมตช์คู่ชิงฯ ปีที่แล้ว "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ (สิงห์ เอช.เอช.) แชมป์เก่า และมือ 3 ของรายการ ย้ำแค้นเอาชนะ อดีตแชมป์ 2 สมัย "ครีม" บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธ์ (แบดมินตันบางโพ) มือ 1 ของรายการ และรองแชมป์เก่า 21-17, 10-21, 21-15 ครองแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน ชายคู่ "ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร (แบดมินตันตำรวจ)/"อาท" บดินทร์ อิสสระ (ที-ไทยแลนด์) คู่มือ 1 ของรายการ ไล่ตบเอาชนะ "ดีโก้" กิตติศักดิ์ นามเดช (ที-ไทยแลนด์)/"ติน" ติณณ์ อิสริยะเนตร (เสนานิคม) 21-17, 10-21, 21-17 คว้าแชมป์ร่วมกันสมัยแรก

หญิงคู่ เป็นการรีแมตช์คู่ชิงฯ ปีที่ 3 ติดต่อกัน ระหว่าง "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล (สิงห์ เอช.เอช.)/"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (ตรีเลิศ) แชมป์เก่า และคู่มือ 1 ของรายการ ย้ำแค้นเอาชนะ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล(ทหารอากาศ)/"วิว" รวินดา ประจงใจ(ธนบุรี) รองแชมป์เก่า และคู่มือ 2 ของรายการ 21-15, 21-5 คว้าแชมป์สมัย 2 ติดต่อกันสำเร็จ
 

คู่ผสม "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ (ศรีราชาสปอร์ตคลับ)/"ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (ตรีเลิศ) แชมป์เก่า คู่มือ 1 ของรายการ ชนะ "อาท" บดินทร์ อิสสระ (ที-ไทยแลนด์)/ "เอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย (บ้านทองหยอด) คู่มือ 2 ของรายการ 21-12, 21-15 คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งนี้ แชมป์ประเภทเดี่ยวจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท และรองแชมป์ได้ 50,000 บาท ส่วนประเภทคู่ แชมป์ได้รับเงิน 120,000 บาท และรองแชมป์รับ 60,000 บาท

 

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับแชมป์และรองแชมป์ทั้ง 5 ประเภท โดยเฉพาะแชมป์ที่ได้รับถ้วยพระราชทาน ทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเท และความพยายามจากการฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จนประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลงานของนักกีฬาทีมชาติไทยทั้งชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย และ ม.โลก ครั้งที่ 29 ที่ไต้หวัน เพราะสามารถผ่านเข้ารอบชิงฯ ได้ทั้งหมด ซึ่งนี่เป็นผลมาจากการปรับรูปแบบการฝึกซ้อมของเร็กซี่ ไมนากี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสมาคมฯ หลังจากจบการแข่งขัน "เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น" เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ก็ขอแสดงความยินดี "น้องจิว"ภัทรสุดา ไชยวรรณ ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมถือแม้จะคว้ารองแชมป์ ยู-19 ปีเอเชีย ก็ตาม

"เร็กซี่ เน้นในเรื่องของความฟิตนักกีฬาเป็นอันดับ 1 จะเห็นได้ว่า หลายคนมีน้ำหนักตัวลดลง จนสามารถเคลื่อนตัวได้คล่องแคล่วมากขึ้น จากนั้น เร็กซี่พยายามให้นักกีฬามองจุดแข็ง และจุดอ่อนของตัวเอง ก่อนจะแก้ไขจุดอ่อน และเสริมจุดแข็งให้ดียิ่งขึ้น โดยเข้าไปติวเข้มแบบรายบุคคล เพื่อให้นักกีฬาเข้าใจ และสามารถทำได้ดีขึ้น ซึ่งระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนนับจากนี้ เชื่อว่านักกีฬาทีมชาติไทยจะมีความพร้อมสูงสุด เพื่อไล่ล่าเหรียญรางวัลในซีเกมส์ และ ม.โลก โดยซีเกมส์ เราคาดว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าครั้งที่แล้ว ไม่ต่ำกว่า 2 เหรียญทอง เป็นเป้าหมายที่เราตั้งไว้สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากนี้ ทางฝ่ายพัฒนาฯ ร่วมกับผู้ฝึกสอน ได้วางแผนการส่งนักกีฬาแข่งขันรายการในต่างประเทศในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 60 นี้ เสร็จเรียบร้อย โดยปรับรูปแบบการส่งแข่งขันให้มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์และการเตรียมความพร้อมของนักกีฬาสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโทมัส คัพ - อูเบอร์ คัพ ในปีหน้า" คุณหญิงปัทมา กล่าว