ในที่สุด การแข่งขันชิงแชมป์โลกประเภททีมหญิงรายการ Uber Cup 2018 ก็จบลงโดย”เต็งหนึ่ง”ญี่ปุ่น คว้าแชมป์ไปครองตามคาดหมาย โดยชนะทีมชาติไทย 3-0 ในการชิงชนะเลิศวันนี้(26พ.ค.)
การพ่ายแพ้ครั้งนี้ สำหรับนักกีฬาและคนไทยทุกคน แม้อาจจะต้องเสียใจที่ไปไม่ถึงแชมป์ แต่ก็ถือว่าทำผลงานได้เกินเป้า เพราะทีมชาติไทย ลงแข่งขันในฐานะเจ้าภาพและเป็นทีมวางอันดับ 4 แต่กลับสามารถเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ เมื่อสามารถเอาชนะแชมป์เก่า 3 สมัยที่มาในฐานะเต็ง 2 คือทีมชาติจีน ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศเมื่อวาน(25พ.ค.) 3-2 คู่
โดยรอบชิงชนะเลิศวันนี้ เริ่มจากหญิงเดี่ยวมือ 1 ไทยส่ง”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ลงแข่งขันกับ Akane YAMAGUCHI นักแบดหญิงเดี่ยวมือ 2 ของโลก ที่ถือว่า”รู้ทางกันดี” เพราะเคยเจอกันมา 18 ครั้งและหญิงเดี่ยวมือ 1 ของญี่ปุ่นชนะ 10 ครั้ง
ในเกมแรก ทั้งคู่เล่นกันแบบสูสี ก่อนที่ Akane YAMAGUCHI ปิดครึ่งเกมนำ 11-10 และทำคะแนนต่อเนื่องเมื่อกลับมาเล่นใหม่ โดยเมย์ได้นำช่วงสั้นๆที่ 14-11แต่หลังจากนั้นเป็นสาวญี่ปุ่นนำตลอดโดยนำห่างและมาได้ 5 เกมพอยต์ที่ 20-15 และปิดเกมแรกที่ 21-15
ในเกมที่ 2 เกมกลับเป็นของ Akane YAMAGUCHI อย่างสิ้นเชิง โดยมีเสมอที่ 7-7 และเมย์ขึ้นนำ 8-7 แต่หลังจากนั้นก็เป็นสาวญี่ปุ่นทำคะแนนฝ่ายเดียว ก่อนที่เมย์จะมีลูกไล่มาตีเสมอ 3 ครั้งที่ 16-16 , 17-17 ,19-19 แต่ก็ต้านไม่ไหว พ่ายเกม 2 ไป 19-21 ให้ญี่ปุ่นขึ้นนำ 1-0 ในเวลา 46 นาที
ในคู่ที่ 2 เป็นประเภทหญิงคู่มือ 1 ซึ่งไทยปรับทีม โดยโค้ชเลือก"กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล ลงเล่นคู่กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล พบ Yuki FUKUSHIMA - Sayaka HIROTA นักแบดมินตันหญิงคู่มือ 2 โลก และเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่
เปิดฉากเกมแรก เป็นคู่ไทยทำคะแนนดีกว่า เพราะญี่ปุ่นไม่รู้ว่าจะเล่นยังไงกับคู่ใหม่ของไทย โดย”กิ๊ฟ-เอิร์ธ” นำห่าง 11-6 ในตอนพักครึ่ง และนำอยู่ 16-13 ก่อนที่คู่ญี่ปุ่นทำ 7 แต้มรวดกลับขึ้นมานำ 20-16 และปิดเกมแรกที่ 21-18
ในเกมที่ 2 ซึ่งเป็นเกมที่ญี่ปุ่นจับทางการเล่นของคู่ไทยได้หลังจากเล่นมาค่อนเกมแรก และใช้วิธีตบใส่เอิร์ธ ซึ่งแสดงอาการอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเมื่อวานต้องเล่นคู่นานถึง 99 นาทีในการพบกับคู่จีน และมาได้ถึง 8 แมทช์พอยต์ที่ 20-12 และปิดเกมที่ 21- 12 ในเวลา 46 นาทีเท่ากับคู่แรก ให้ญี่ปุ่นขึ้นนำ 2-0
คู่ที่ 3 เป็นประเภทหญิงเดี่ยวมือ 2 ไทยส่ง “แน๊ต”ณิชชาอร จินดาพล นักแบดมินตันมือ 11 โลก พบ Nozomi OKUHARA นักแบดหญิงเดี่ยวมือ 9 ของโลกเจ้าของแชมป์โลกคนปัจจุบัน โดยคู่นี้เคยเจอกัน 4 ครั้งและเป็นสาวญี่ปุ่นชนะ 3 ครั้ง
เปิดฉากในเกมแรก เมื่อ Nozomi OKUHARA ขึ้นนำ 1-0 แน๊ตก็ขออนุญาตกรรมการเพื่อพันข้อมือ และตลอดทั้งเกม แน๊ตแสดงให้เห็นถึงอาการอ่อนล้าจากการกรำศึกกับ GAO Fangjie มานานถึง 91 นาที โดย Nozomi OKUHARA เป็นฝ่ายทำคะแนนฝ่ายเดียวตั้งแต่ต้นเกม โดยไม่มีแต้มเสมอเลย โดยนำห่างสุดที่ 19-9 และปิดเกมแรกที่ 21-12
ในเกมที่ 2 รูปแบบก็ยังเป็นแบบเดิม นั่นคือแชมป์โลกจากญี่ปุ่นทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว โดย”แน๊ต”ทำดีที่สุดคือเสมอที่ 1-1 และ 3-3 จากนั้นก็เป็นฝ่ายถูกโยกให้วิ่งตามลูกอยู่ฝ่ายเดียว และ Nozomi OKUHARA มาได้แมทช์พอยต์และแชมเปี่ยนชิพพอยต์ของญี่ปุ่นที่ 20-9 และชนะไป 21-9 ให้ญี่ปุ่นชนะไทย 3-0 คว้าแชมป์ Uber Cup 2018
ชัยชนะ 3-0 ทำให้คู่ที่ 4 ซึ่งเป็นหญิงคู่มือ 2 ที่ไทยวาง"วิว" รวินดา ประจงใจ ลงคู่กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พบ Misaki MATSUTOMO - Ayaka TAKAHASHI แชมป์หญิงคู่โอลิมปิก 2016 และหญิงเดี่ยวมือ 5 “ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งยำรุงพันธุ์ พบ Sayaka TAKAHASHI ไม่ต้องมีการแข่งขัน
แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ก็ถือว่านักกีฬาทีมชาติไทยชุดนี้ทำผลงานได้ดี เพราะสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4 ทีมสุดท้าย แต่ทีมชาติไทยกลับสามารถเข้าชิงชนะเลิศได้
ผลงานครั้งนี้ ต้องบันทึกว่าเป็นความสำเร็จของนักกีฬาทั้ง 10 คนคือ "เมย์" รัชนก อินทนนท์, "แน็ต" ณิชชาอร จินดาพล, "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์, "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล, "วิว" รวินดา ประจงใจ, "เบสท์" ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม, "จ๋อมแจ๋ม" ผไทมาส เหมือนวงศ์, "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล และทีมผู้ฝึกสอน ที่มี เร็กซี่ ไมนากี้ หัวหน้าโค้ชชาวอินโดนีเซีย เทศนา พันธ์วิศวาส, ภัททพล เงินศรีสุข, นูนุง สุบันโดโร, พันตำรวจตรี กฤติน กฤตตานุกูลย์, นาวาอากาศตรีหญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ, สิบเอก ปฏิพัทธ์ ฉลาดแฉลม
ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแบดมินตันไทยที่ก้าวมาไกลถึงรองแชมป์โลกประเภททีมหญิง
