แม้การคว้าแชมป์ 2 รายการติดต่อกันคือ Fuzhou China Open และ Hong Kong Open ไม่เพียงพอที่จะทำให้ CHEN Yufei ขึ้นเป็นนักแบดมินตันอันดับหนึ่งของโลก เพราะยังมีคะแนนตามหลัง TAI Tzu Ying สาวไต้หวันอยู่ 210 คะแนน แต่สำหรับแฟนแบดมินตันชาวจีน ..นี่คือสิ่งที่พวกเขารอคอยมายาวนาน
 

เพราะนับเนื่องตั้งแต่นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวของจีนผ่านยุค 2 หวัง 1 ลี เมื่อ Wang Yihan, Wang Shixian และ Li Xuerui ที่เคยผงาดเป็นมือหนึ่งโลกและกวาดแชมป์ทุกรายการ ตัดสินใจเลิกเล่น โดยแม้ Li Xuerui จะพยายามกลับมาลงสนามหลังผ่าตัดและหยุดลงสนามไปนาน 20 เดือน แต่ก็ไม่สามารถคืนฟอร์มเก่งได้ ก็ถือเป็น ”ยุคมืด” ของนักกีฬาจากจีนในประเภทหญิงเดี่ยว ที่ห่างหายไปจากทำเนียบ ”แชมป์” ยาวนาน

 

ก่อนหน้านี้ แฟนแบดมินตันจีน มีความหวังเล็กๆเมื่อ He Bingjiao ทำผลงานดีในปี 2016 เมื่อคว้า 2 แชมป์ระดับ Super Series คือ Japan Open และ French Open ก่อนที่ฟอร์มเก่งจะหายไป เพราะอาการบาดเจ็บ ในปี 2016 ที่ He Bingjiao คว้า 2 แชมป์ใหญ่นั้น เป็นปีที่ Chen Yufei ยังเล่นระดับเยาวชนและคว้าแชมป์ BWF World Junior Championships ในเดือนพฤศจิกายนที่สเปน

 

และเมื่อขาดนักกีฬาระดับ Senior ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งคู่ถูกผลักดันขึ้นเป็นเสาหลักของหญิงเดี่ยวจีนตั้งแต่เด็ก แต่ตลอดปี 2017 ผลงานของนักกีฬาแบดมินตันจีนในประเภทหญิงเดี่ยว ถือว่า”ล้มเหลว”เพราะการแข่งขันระดับ Super Series ทั้งปี 12 รายการและ Super Series Finals ไม่มีนักกีฬาหญิงเดี่ยวจีนได้แชมป์เลยแม้แต่รายการเดียว

 

กระทั่งปี 2018 หลังผ่านด่านทดสอบมาหนึ่งปีเต็ม Chen Yufei ก็เริ่มเปล่งประกายให้แฟนแบดมินตันทั่วโลกรู้จัก โดยคว้าแชมป์รายการระดับ Super 750 ในบ้านเกิดคือ Fuzhou China Open เมื่อเอาชนะ Nozomi Okuhara ในรอบชิง 21-10,21-16 หลังชนะ Carolina Marín ในรอบรองฯ 11-21,21-15,21-13 ถือเป็นการประกาศว่าถึงเวลาที่สาวจีนจะกลับมาในโลกแบดมินตันหญิงเดี่ยวแล้ว

 

กระทั่งเมื่อถึงปี 2019 หลังจาก ”ลองผิดลองถูก” ลงสนามมาต่อเนื่อง 2 ปี ดูเหมือน Chen Yufei พร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีที่กล่าวได้ว่า ”หญิงเดี่ยว” เป็นประเภทการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุดชนิดที่ยากจะทำนายได้ว่าสาวคนไหนจากชาติไหนจะเป็นแชมป์ ขณะที่อีก 4 ประเภทที่เหลือ ดูเหมือน ”ตัวเก็ง” จะไม่ค่อยพลาดแชมป์

 

โดยปี 2019 ถือเป็น ”ปีทอง” ของ Chen Yufei เพราะสามารถคว้าแชมป์ ”รายการใหญ่” ได้ครบทุกระดับถึง 4 รายการ คือ All England Open ในระดับ Super 1000 ต่อด้วย Fuzhou China Open ในระดับ Super 750 และระดับ Super 500 อีก 2 รายการคือ Thailand Open และ Hong Kong Open

รวมทั้งมีรายการเล็กๆเพื่อปรับสภาพร่างการระหว่างตระเวนแข่งขันยุโรปอีก 2 รายการในระดับ Super 300 คือ Swiss Open และ Australian Open
 

การคว้า 6 แชมป์ก่อนถึง BWF World Tour Finals ในเดือนหน้า เป็นการยืนยันว่า Chen Yufei พร้อมแล้วที่จะต่อกรกับนักกีฬาทุกคนทุกชาติในทุกเวที เพราะคู่แข่งคนอื่น นั่นคือ Tai Tzu-ying สาวมือหนึ่งโลกจากไต้หวัน ปีนี้มีเพียง 3 แชมป์คือ Malaysia Open และ Denmark Open ในระดับ Super 750 และ Singapore Open ในระดับ Super 500 ส่วน Akane Yamaguchi ก็มี 3 แชมป์ คือ Indonesia Open ในระดับ 1000 Japan Open ระดับ 750 และระดับ 300 คือ German Open

 

ขณะที่ ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ปีนี้ก็มีแชมป์ระดับ Super500 มาเพิ่มประวัติ 2 รายการคือ Malaysia Masters กับ India Open ส่วน Nozomi Okuhara ที่ขึ้นไปเป็นมือหนึ่งโลกช่วงสั้นๆนั้น เป็นปี ”ไร้แชมป์” จากการเข้าชิงชนะเลิศ 5 รายการและแพ้ทั้ง 5 รายการ

ส่วนแชมป์โลก PUSARLA V. Sindhu ปีนี้ก็มีเพียงเป็นแชมป์โลกและยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ ขณะที่อดีตแชมป์โลก Carolina MARIN ที่เพิ่งกลับมาลงสนาม ก็มีแชมป์รายการเดียวที่จีน
 

ผลงานที่ถือเป็นนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวที่ดีที่สุดในปีนี้ จึงไม่น่าแปลกใจหาก Chen Yufei จะได้รับเลือกเป็นนักแบดมินตันยอดเยี่ยมประจำปี 2019 และแฟนแบดมินตันจีนคาดหวังถึง ”เหรียญทอง” หญิงเดี่ยวในโอลิมปิก 2020

เพราะความสำเร็จของ Chen Yufei ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มาจากการฝึกซ้อมและวางแผนอย่างเชื่อมั่นของทีมงานสมาคมแบดมินตันจีน