รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
โอลิมปิก 2020 เป้าหมายที่ต้องเริ่มวันนี้
  31 พ.ค. 2562
แบ่งปัน


สำหรับ”แบดมินตัน” เป้าหมายสำคัญของสมาคมแบดมินตันทั่วโลกก็คือเหรียญรางวัล เพราะการแข่งขันที่มี 4 ปีครั้ง และเป็นกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ การมีเหรียญรางวัล โดยเฉพาะ”เหรียญทอง” ถือเป็นเป้าหมายใหญ่สุดของนักกีฬา ไม่ใช่เฉพาะนักแบดมินตันเท่านั้น

ความยิ่งใหญ่ของโอลิมปิก ทำให้สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ก็ถือว่า”แชมป์” หรือเจ้าของเหรียญทองแบดมินตันโอลิมปิกคือ”แชมป์โลก โดยให้ปีที่มีการแข่งขันโอลิมปิก ไม่มีการแข่งขันชิงแชมป์โลก BWF World Championships และนักกีฬาหลายคนก็มองว่านี่คือ”เป้าหมาย”ที่ใหญ่กว่าแชมป์โลก เพราะแชมป์โลกมีแข่งทุกปี แต่โอลิมปิก จะมี 4 ปีครั้ง

เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีเศษ โตเกียว 2020 จะเริ่มต้น และนั่นคือการบ้านข้อใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่มีสถานะเป็น”เจ้าภาพ” ที่มุ่งเป้าหมายเหรียญทองให้มากที่สุด โดยเฉพาะชายเดี่ยวและหญิงคู่
 
การพ่ายแพ้ในศึก TOTAL BWF Sudirman Cup 2019 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นี่คือโจทย์ใหญ่ที่สมาคมแบดมินตันญี่ปุ่นจะต้องหาคำตอบโดยเร็วว่าทำไมถึงพ่ายแพ้จีนในรอบชิงชนะเลิศแบบหมดรูป 0-3 ทั้งที่วางแผนอย่างดี โดยมองว่าน่าจะยืดเยื้อถึงคู่ที่ 5 ในประเภทคู่ผสม โดยสามารถเก็บ 2 คะแนนสำคัญคือชายเดี่ยวและหญิงคู่ แถมหากชนะหญิงเดี่ยวก็จะคว้าแชมป์  
 
  ขณะที่”จีน” ถือว่าเป็นความสำเร็จในเบื้องต้น แม้อาจจะยังไม่ถึงการวางใจ โดยเฉพาะในประเภทหญิงเดี่ยว ที่ยังไม่ถึงกับมั่นใจ 100% เหมือนยุค”สองหวังหนึ่งลี”ว่าจะต้องมีคนใดคนหนึ่งเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศหรือคว้าแชมป์ แต่ก็ถือว่าการ”เตรียมคน”ตั้งแต่จบโอลิมปิก 2016 เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว

กลับมาที่ประเทศไทย ....เป้าหมายของการคว้าเหรียญทองนั้น เชื่อว่าสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยมีความมุ่งมั่นมากแน่นอน แต่จะทำได้แค่ไหนยังต้องเพิ่มความมุ่งมั่นเพื่อทำความฝันให้เป็นความจริง โดยระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเศษ ก็ไม่น้อยที่จะลงมือทำ แต่ไม่มากพอที่จะเริ่มต้นนับหนึ่ง
 
 
พูดตรงๆตามผลงาน นักกีฬาไทยที่มีสิทธิ์คว้าเหรียญรางวัลในขณะนี้ มีเพียงประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์”รัชนก อินทนนท์ ซึ่งทำผลงานปีนี้ได้ดี คว้า 2 แชมป์ Superseries รายการ PERODUA MALAYSIA MASTERS 2019 และ YONEX-SUNRISE INDIA OPEN 2019และคู่ผสม “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่คว้าแชมป์ใหญ่คือ  SINGAPORE OPEN 2019 และรองแชมป์ PERODUA MALAYSIA MASTERS 2019 
 
 
  ส่วนนักกีฬาคนอื่นๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส หากแต่ต้องสนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาอย่างจริงจัง

ในประเภทชายเดี่ยว ผลงานของ”กัน”กันตภณ หวังเจริญ นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 17 ของโลก ก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการข้ามขั้นที่รวดเร็ว สามารถโชว์ผลงานดีต่อเนื่อง นับตั้งแต่คว้าสิทธิ์ไปแข่งขันรายการ HSBC BWF World Tour Finals 2018 เมื่อปลายปีก่อน จนแฟนแบดมินตันทั่วโลกที่ได้ชม ยังตื่นตาตื่นใจกับผลงานนักแบดมินตัน”โนเนม”จากประเทศไทย
 
ตอนนี้มีเพียงเพิ่มพละกำลัง เสริมความแข็งแรง และเทคนิค ที่เมื่อสามารถบวกกับ”ความมั่นใจ”จนดูก้าวร้าวของเด็กหนุ่มวัย 20 คนนี้ก็ถือเป็นดาวดวงใหม่ในวงการแบดมินตันชายเดี่ยวโลกแน่นอน

ในประเภทหญิงเดี่ยว นอกจาก”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ก็จะมี “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 19 ของโลก ที่อาจจะต้องขับเคี่ยวกับ “ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ นักแบดมินตันมือ 23 โลก ที่จะต้องแข่งขันกันเองเพื่อเป็นนักกีฬาไทยในประเภทหญิงเดี่ยวที่คว้าสิทธิ์ไปโตเกียว 2020
 
 


กรณีของ”หมิว” เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่กำลังมีปัญหาทางใจกับสมาคมแบดมินตันฯ ที่เชื่อว่าแฟนแบดมินตันชาวไทยทุกคนต่างภาวนาและเอาใจช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ด้วยดี เพราะจะเป็น Win-Win Game คือต่างก็ได้ทั้งคู่

กรณีของ”หมิว”อยากยกตัวอย่างของสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย ที่ตัดสินใจยอมปล่อย GOH V Shem / TAN Wee Kiong นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 15 ของโลก เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 กับ CHAN Peng Soon / GOH Liu Ying คู่ผสมมือ 5 ของโลกออกจากการฝึกซ้อมและเป็นสังกัดของสมาคมแบดมินตันฯ โดยมองว่า การลาออกจากสมาคมไปเป็นนักกีฬาอิสระ ฝึกซ้อมเอง ไปแข่งขันเอง ทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาไปอีกระดับ โดยนักกีฬาและสมาคมฯ มีข้อตกลงทางใจกันว่า หากผลงานดีและได้โควตา สมาคมก็จะส่งไปแข่งขันโอลิมปิก 2020 

 
 
เช่นเดียวกับ”หมิว” ที่นักกีฬามองตัวเองว่าการฝึกซ้อมในสมาคมฯ ไม่สามารถพัฒนายกระดับฝีมือได้ จึงขอลาออกจากสมาคมไปเป็นนักกีฬาในสังกัดสโมสร เพื่อพัฒนาตัวเอง เพราะมองว่าตัวเองยังมีอีกหลายจุด(อ่อน)ที่จะต้องแก้ไข จึงอยากเห็นสมาคมแบดมินตันฯกับ”หมิว”สามารถตกลงหาคำตอบที่ดีที่สุดของทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อออกจากสมาคมฯ “หมิว”ก็ยังสามารถไปแข้งขันในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยได้ เช่นเดียวกับ”เมย์”รัชนก นักกีฬาของ”บ้านทองหยอด” หรือ”บาส-ปอป้อ” นักกีฬาของ SCG 
 
 
 
  เมื่อทั้งคู่มีเป้าหมายตรงกัน จึงขอให้กำลังใจให้การเจรจาหาทางออกเป็นไปด้วยไมตรีจิตที่”ผู้ใหญ่”มอบให้เด็กๆ

ส่วนนักกีฬาอีก 2 ประเภทคือชายคู่และหญิงคู่ ต้องยอมรับความจริงว่าเป็น 2 ประเภทที่”ยาก”สำหรับการได้เหรียญรางวัล โดยในประเภทชายคู่ ถึงตอนนี้ “อาร์ท-เอ”บดินทร์ อิสสระ / มณีพงษ์ จงจิตร ชายคู่มือ 33 โลก เป็นคู่ที่อันดับโลกดีที่สุด แต่ถึงตอนนี้ โควตาไปโอลิมปิก RACE TO TOKYO - BWF OLYMPIC QUALIFICATION ยังอยู่ที่อันดับ 59 และการเป็นนักกีฬาอิสระ ทำให้ไม่สามารถไปร่วมแข่งขันหลายรายการ จึงยากที่จะเร่งทำคะแนนสะสมหรือผลงานอออกมา
 
ขณะที่”ติน-ดีโก้” ติณณ์ อิสริยะเนตร / กิตติศักดิ์ นามเดช การบาดเจ็บของ”ดีโก้”ทำให้คะแนนสะสม RACE TO TOKYO - BWF OLYMPIC QUALIFICATION ยังไม่มี ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องคิดก็คือ จะต้องเร่งให้”ดีโก้”กลับมาสมบูรณ์เพื่อเร่งทำผลงานและคะแนนสะสมโดยเร็ว  
 
  ส่วนในประเภทหญิงคู่"กิ๊ฟ-วิว" จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ คู่มือ 9 ของโลก มีคะแนนสะสมไปโอลิมปิกอยู่อันดับ 14 แต่ได้โควตาที่ 12 ซึ่งหมายถึงโอกาสได้ไปร่วมแข่งขันน่าจะ 100% แต่ต้องยอมรับว่าในประเภทนี้ ยังต้องถือว่าจีนกับญี่ปุ่นเป็นคู่ที่ต่อกรกันเอง และในเวลาหนึ่งปีที่”กิ๊ฟ-วิว”จะต้องเร่งพัฒนาทุกด้าน ก็ต้องไม่ลืมว่า หญิงคู่ญี่ปุ่นที่มีถึง 4 คู่ในทอปเทนโลก และจีนอีก 2 คู่ ก็ไม่ได้หยุดพัฒนาเพื่อรอนักกีฬาชาติอื่น

นี่จึงเป็นการบ้านเบื้องต้นของการเตรียมพร้อมสำหรับทีมชาติไทยในโอลิมปิก 2020 ที่ Badmintonthaitoday ได้นำเสนอในตอนแรก
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ