รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
ที่สุดของ Sudirman Cup 2019
  28 พ.ค. 2562
แบ่งปัน



ในที่สุด แบดมินตันชิงแชมป์โลกประเภททีมผสมรายการ TOTAL BWF Sudirman Cup 2019 ที่เมือง Nanning ประเทศจีน ที่ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 8 วันตั้งแต่วันที่ 19 จนถึง 26 พฤษภาคม ซึ่งในที่สุด ทีมชาติจีนก็กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 11 เมื่อเอาชนะทีมวางอันดับหนึ่งคือญี่ปุ่น 3-0 และนี่เป็นประมวลภาพที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ของ badmintonthaitoday
 
  นักแบดมินตันชายเดี่ยวเก่งที่สุด …แน่นอนว่าต้องยกให้ Shi Yuqi นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 2 ของโลก ที่เป็นผู้ทำคะแนนสำคัญ เมื่อเอาชนะ Kento Momota แชมป์โลกชายเดี่ยวมือหนึ่งโลกจากญี่ปุ่นไปแบบสุดมัน 2-1 เกม 15-21,21-5 ,21-11 ทำให้จีนคว้าแชมป์
 
โดยในรายการนี้ Shi Yuqi ได้รับเลือกให้ลงสนาม 3 แมทช์และชนะทั้ง 3 แมทช์ โดยเริ่มตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ Lee Zii Jia จากมาเลเซีย 2 เกมรวด 21-12 , 21-11 ในรอบรองชนะเลิศ ชนะ “กัน”กันตภณ หวังเจริญ จากประเทศไทย 2 เกมรวด 21-15,26-24 และปิดท้ายในรอบชิงชนะเลิศ ที่สามารถเอาชนะแชมป์โลก  
 
  นักแบดมินตันชายเดี่ยวที่น่าผิดหวังมากที่สุด ... แม้ว่าผลงานของ Kento Momota แชมป์โลกจะถือว่าทำได้ดี ในการลงสนาม 4 แมทช์และชนะ 3 แมทช์ คือชนะ”โอ๊ต”สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ 21-19,21-10 ในรอบแบ่งกลุ่ม ชนะ Lee Zii Jia จากมาเลเซียในรอบ Quarter Final 21-18,21-16 และชนะ Anthony Sinisuka Ginting จากอินโดนีเซีย 21-17,21-19 ในรอบรองชนะเลิศ
 
แต่การพ่ายแพ้ Shi Yuqi ในรอบชิงชนะเลิศ 1-2 เกมด้วยสกอร์ 21-15 , 5-21,11-21 ที่ทำให้ทีมพลาดการคว้าแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ต้องถือว่าเป็นผลงานที่น่าผิดหวัง โดยเฉพาะใน 2 เกมหลังที่แพ้แบบ”ขาดลอย”ชนิดไม่เหลือฟอร์มแชมป์โลกที่ถูกยกย่องว่าไร้เทียมทานในยุคปัจจุบัน  
 
  นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวเก่งที่สุด … ต้องยกให้ Chen Yufei นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 2 ของโลก ผู้ทำคะแนนสำคัญในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อเอาชนะ Akane Yamaguchi ในคู่ที่ 2 ด้วยสกอร์ 2-1 เกม 17-21,21-16,21-17 ให้จีนขึ้นนำ 2-1 ทำให้เพื่อนร่วมทีมที่ลงสนามต่อจากเธอลดความกดดัน
 
ที่สำคัญ ในรายการนี้ Chen Yufei เป็นนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวจีนคนเดียวที่ลงสนามครบทั้ง 5 แมทช์ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนนัดชิงชนะเลิศ โดยเริ่มจากชนะ Soniia Cheah จากมาเลเซียในรอบแบ่งกลุ่ม 2-1 เกม 21-15 ,21-23, 21-14 ชนะ Saina Nehwal จากอินเดียในรอบแบ่งกลุ่ม 21-12, 21-17 ชนะ Mia Blichfeldt จากเดนมาร์คในรอบ Quarter Final 21-16 , 21-17 ส่วนรอบรองชนะเลิศ มีชื่อจะเจอ รัชนก อินทนนท์ แต่ไม่มีการแข่งขันเพราะจีนชนะไทย 3-0 และปิดท้ายทำคะแนนสำคัญให้จีนขึ้นนำญี่ปุ่นในรอบชิง 2-1 เมื่อเอาชนะ Akane Yamaguchi ไปแบบสุดตื่นเต้น 2-1 เกม 17-21, 21-16 , 21-17  
 
  นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวผลงานน่าผิดหวังที่สุด ... ต้องถือว่า ”โชคร้าย” ที่ Akane Yamaguchi แชมป์หญิงเดี่ยวเอเชียคนล่าสุดต้องรับตำแหน่งนี้ไปแบบน่าสงสาร เพราะในรายการนี้ เธอลงสนาม 3 แมทช์และพ่ายแพ้ 2 แมทช์ทั้งๆที่น่าจะเดินออกจากสนามในฐานะผู้ชนะ
 
โดยเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม ที่เธอแพ้ “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ 1-2 เกม 21-9 , 14-21 , 20-22 ก่อนจะมาชนะ Gregoria Mariska TunjungINA แชมป์เยาวชนโลกรุ่นน้องจากอินโดนีเซียในรอบรองชนะเลิศ 21-13,21-13 และปิดท้ายแพ้ Chen Yufei ในรอบชิงชนะเลิศ 21-17,16-21,17-21  
 
  เพราะเมื่อต้องนำไปเปรียบเทียบกับ Nozomi Okuhara เพื่อนร่วมทีมที่มีดีกรีเป็นอดีตแชมป์โลก ที่ได้รับเลือกให้ลงสนาม 2 แมทช์ และสามารถเอาชนะทั้ง 2 แมทช์ในการเจอกับ Natalia Perminova จากรัสเซียในรอบแบ่งกลุ่มที่เอาชนะ 21-6,21-16 และชนะ Soniia Cheah จากมาเลเซียในรอบ Quarter Final 21-16,21-13 ก็ยิ่งเห็นผลงานที่แตกต่างกัน 
 
ทีมที่ใช้นักกีฬามากที่สุด … ต้องยกให้”ญี่ปุ่น”ไปแบบไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ เป็นทีมที่มีนักกีฬาระดับโลกครบทุกประเภท ทำให้พวกเขาสามารถใช้นักกีฬาได้แบบไม่ต้องกลัวว่าคนที่ถูกเลือกลงสนามจะทำผลงานได้ดีหรือไม่

โดยในประเภทชายเดี่ยว Kenta Nishimoto  ได้ลงสนามเจอกับรัสเซียในรอบแบ่งกลุ่ม จากนั้นที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของ Kento Momota 
 
 
  ในประเภทหญิงเดี่ยว Nozomi Okuhara ก็ลงสนาม 2 แมทช์ ขณะที่ Akane Yamaguchi ได้รับโอกาสมากกว่าคือลงเล่น 3 แมทช์

ประเภทชายคู่ Hiroyuki Endo / Yuta Watanabe ได้รับโอกาสลงสนามในเกมรอบแบ่งกลุ่มเจอรัสเซียและรอบชิงชนะเลิศกับจีน ขณะที่ Takeshi Kamura / Keigo Sonoda ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มกับไทย รอบ Quarter Final กับมาเลเซีย และรอบรองชนะเลิศกับอินโดนีเซีย
 
ประเภทหญิงคู่ เพราะเป็นประเภทที่มีนักกีฬาติดอันดับโลกมากมาย ญี่ปุ่นจึงนำมาแข่งขันทั้ง 3 คู่และทั้ง 3 คู่ก็มีโอกาสลงสนาม โดยเริ่มจาก Yuki Fukushima / Sayaka Hirota ลงสนามนัดแรกที่เจอกับรัสเซีย จากนั้นก็เป็น Misaki Matsutomo / Ayaka Takahashi ลงเล่นแมทช์เจอไทยในรอบแบ่งกลุ่ม Mayu Matsumoto / Wakana Nagahara คู่แชมป์โลก ได้ลงเล่นรอบรองชนะเลิศกับอินโดนีเซีย และมีชื่อเจอมาเลเซียในรอบ Quarter Final กับมาเลเซียและรอบชิงชนะเลิศกับจีน แต่ไม่ได้ลงสนาม และทั้ง 3 คู่ที่ลงเล่นต่างก็เอาชนะคู่แข่งทั้งหมด
ปิดท้ายประเภทคู่ผสม ในวันแรกที่เจอรัสเซีย โค้ชเลือก Takuro Hoki / Wakana Nagahara ลงสนาม ก่อนจะเป็น Arisa Higashino / Yuta Watanabe ในเกมเจอกับไทย และคู่นี้มีชื่ออีก 3 รอบทั้งรอบ Quarter Final รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ แต่การแข่งขันจบก่อนจะถึงโปรแกรมต้องลงสนาม 
 
 
  ทีมที่ผลงานประทับใจมากที่สุด ... รางวัลนี้ต้องยกให้ทีม ”อังกฤษ” เพราะเป็นทีมที่มีงบประมาณน้อยที่สุด มีนักกีฬามาเพียง 8 คน ทำให้นักกีฬาบางคนต้องลงเล่น 2 ประเภท แต่กลับทำผลงานโดยชนะเดนมาร์ค หนึ่งในทีมที่ถูกมองว่าอาจจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศแบบสุดมัน 3-2 ในแมทช์ที่ 2 ของทีม หลังจากแมทช์แรกแพ้อินโดนีเซีย 1-4
 
โดยนักกีฬาเด่นของทีม ยังคงเป็น Chris Adcock / Gabrielle Adcock คู่ผสมที่เอาชนะ Praveen Jordan / Melati Daeva Oktaviant ในรอบแบ่งกลุ่ม 21-17,21-18 และ Marcus Ellis ที่ทำคะแนนสำคัญ โดยเล่นคู่ผสมกับ Lauren Smith เอาชนะ Mathias Christiansen / Sara Thygesen จากเดนมาร์ค 15-21,22-20,21-17 และลงเล่นขายคู่กับ Chris Langridge เอาชนะ Kim Astrup / Anders Skaarup Rasmussen ที่มีแชมป์หลายรายการ 16-21,21-19,21-19  

ส่วน Lauren Smith ก็ถือว่าทำผลงานได้ดี เพราะในประเภทคู่ผสมกับ Marcus Ellis แล้ว เธอยังลงเล่นหญิงคู่กับ  Chloe Birch เอาชนะ Maiken Fruergaard / Sara Thygesen 21-12,19-21,21-11 แถม Chloe Birch ยังต้องลงเล่นหญิงเดี่ยวอีกประเภทในวันเจอกับเดนมาร์ค

ทีมชาติอังกฤษจึงกลับบ้านแบบไม่ต้องอายใครในรายการนี้
 
  ทีมที่ผลงานดีที่สุด ... ต้องยกให้”จีน”ทีมเจ้าภาพที่ทำผลงานได้ตามเป้าหมาย คือการคว้าแชมป์สมัยที่ 11 และยังประกาศให้โลกเห็นว่าเป็นชาติที่มีนักกีฬามือดีในหลายประเภทที่ต่างได้รับโอกาสลงสนาม โดยมีเพียงหญิงเดียว ที่ Chen Yufei ผูกขาดลงสนามครบทั้ง 5 แมทช์ แถมในรายการนี้ นักกีฬาจีนมีแพ้เพียงคู่เดียว คือ Chen Long แพ้ Viktor Axelsen จากเดนมาร์คในรอบรองชนะเลิศ 11-21, 18-21
 
ปิดท้าย นักกีฬาไทยที่ขอชื่นชม ... รางวัลนี้ ยกให้นักกีฬาทีมชาติไทยทั้งทีม ที่ได้อันดับ 3 โดยสามารถเอาชนะ”แชมป์เก่า”เกาหลีใต้ ในรอบ Quarter Final 3-1 โดยนักกีฬาทุกคนทำผลงานได้ดี ตั้งแต่ “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่เอาชนะ Chae Yujung / Seo Seung Jae คู่เก่งของเกาหลีที่ทำให้ทีมได้แชมป์เมื่อ 2 ปีก่อน 21-18,21-18 “กัน”กันตภณ หวังเจริญ ที่ชนะ Heo Kwang Hee ไปแบบไม่ยาก 21-17,21-17 และ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่ทำแต้มสำคัญ เอาชนะ Se Young An 21-15,21-17 เช่นเดียวกับ “ติน-สกาย” ติณณ์ อิสริยะเนตร / กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่เฉพาะกิจที่แพ้ Min Hyuk Kang / Kim Won Ho หวุดหวิด 1-2 เกม 21-19,17-21,14-21  

แต่ที่ต้องยกย่องเป็นพิเศษคือ”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่ถูกเลือกลงสนามในรอบแบ่งกลุ่มเจอญี่ปุ่น ที่สามารถเอาชนะ Akane Yamaguchi ที่ถือเป็นนักกีฬาที่โค้ชญี่ปุ่นให้ความไว้วางใจสูงและเลือกลงสนามนัดชิงชนะเลิศ 2-1 เกม 9-21,21-14,22-20 โดยใช้เวลาแข่งขันนานถึง 1 ชั่วโมง 11 นาที เพราะ”หมิว”แสดงให้เห็นถึงความเป็นนักสู้และประกาศศักดานักตบลูกขนไก่สาวไทยให้แฟนแบดมินตันที่ชมทั้งสนามในวันนั้นและหน้าจอทั่วโลกเห็นถึงใจสู้ที่ไม่ท้อถอย
 
 

ขอบคุณนักกีฬาไทยทุกคนที่ทำให้แฟนแบดมินตันไทยมีความสุข

TOTAL BWF Sudirman Cup 2019 จึงจบลงโดยสมบูรณ์แบบที่ ทุกคนคือผู้ชนะ
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ