ในขณะที่นักแบดมินตันมาเลเซียกำลังแข่งขันรายการ DAIHATSU YONEX Japan Open ที่โตเกียว ซึ่งวันนี้(22ก.ย.)เป็นการแข่งขันรอบ Quarter Final นักกีฬาทุกคนก็ได้รับข่าวการลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ Morten Frost ที่มารับตำแหน่งเมื่อ 2 ปีครึ่งก่อน และนักกีฬาหลายคนก็คือ”ผลผลิต”จากการปลุกปั้นของอดีตนักแบดมินตันมือ 1 โลกชาวเดนมาร์ค
 

ไม่รู้ว่าการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผอ.ฝ่ายเทคนิคจะมีผลหรือไม่ แต่การแข่งขันที่โตเกียวในรอบ 2 เมื่อวาน(21ก.ย.) ทำให้นักแบดมินตันคู่ผสมอย่าง GOH Soon Huat กับ Shevon Jemie LAI ที่ได้รับโอกาสจาก Morten Frost เล่นไม่ออกและพ่ายคามือรองจากญี่ปุ่นตกรอบไป เช่นเดียวกับ Soniia CHEAH อดีตมือ 1 หญิงเดี่ยวก็ตกรอบ

 

อย่างไรก็ตาม Misbun Sidek หัวหน้าโค้ชชายเดี่ยวของทีม ซึ่งไม่ได้เดินทางไปญี่ปุ่น และถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน”ความขัดแย้ง”กับอดีตผอ.ฝ่ายเทคนิค สมาคมแบดมินตันมาเลเซีย ยังมั่นใจว่า แม้ทีมแบดมินตันมาเลเซียจะไม่มี Morten Frost ดูแลเหมือน 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา แต่ส่วนตัวแล้วเขายังมั่นใจว่าทีมแบดมินตันมาเลเซียจะเดินหน้าต่อไปได้

“การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอและเราต้องไม่กลัวที่จะทดลองใช้สิ่งใหม่ ๆ” หัวหน้าโค้ชชายเดี่ยวมาเลเซียกล่าว และบอกว่า การ”คิดบวก”ของ Morten Frost ที่บอกว่าทีมแบดมินตันมาเลเซียไม่ได้มีผลงานตกต่ำ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องเดินหน้า
 

ทั้งนี้ ในสุดสัปดาห์นี้ สมาคมแบดมินตันมาเลเซียได้เรียกหัวหน้าโค้ชทั้งหมด คือ Cheong Soon Kit (โค้ชชายคู่) Tey Seu Bock (โค้ชหญิงเดี่ยว) Wong Pei Tty (โค้ชหญิงคู่) และ Chin Ee Hui (โค้ชหญิงเดี่ยว)ซึ่งเดิมต้องรายงานตรงต่อ Morten Frost มาประชุมเพื่อหาแนวทางการพัฒนานักกีฬาต่อไป ซึ่ง Misbun Sidek มั่นใจว่าโค้ชทุกคน มีวิธีการจัดการตัวเองเพื่อให้นักกีฬาสามารถทำผลงานได้ดี

 

ส่วนตัวเขาเองนั้น เขายืนยันว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Morten Frost แม้จะเพิ่งรวมงงานกันแค่ 2 เดือนครึ่ง และเป็นโค้ชหนึ่งเดียวที่ไม่ต้องรายงานแผนการฝึกซ้อมของนักกีฬาที่ตนเองดูแลให้อดีตผอ.เทคนิคที่ลาออกไป แต่ยอมรับว่า เมื่อไม่มีผอ.เทคนิคที่เก่งอย่าง Morten Frost มาเลเซียก็จำเป็นต้องหาโค้ชที่เก่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเดี่ยวและคู่ผสม

"นี่คือสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม ผมเชื่อว่าเราสามารถทำงานร่วมกันได้เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันคือความสำเร็จของทีม” Misbun กล่าว 
 

ส่วนในฐานะผู้ดูแลนักกีฬาชายเดี่ยวนั้น เขากล่าวว่าในตอนนี้ มาเลเซียมีนักแบดมินตันชายเดี่ยวที่จะต้องมาใช้งาน 13 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือตัวจริงและตัวสำรอง และทั้ง 13 คนก็มี”เป้าหมาย”เฉพาะตัวว่าจะต้องทำได้ตามกำหนดเวลา และแน่นอนว่า”พี่ใหญ่”ก็คงเป็น Lee Chong Wei

 

และ”พี่ใหญ่”ก็คือชายเดี่ยวคนเดียวของมาเลเซียที่ผ่านมาถึงรอบ 8 คนสุดท้ายที่โตกียว ที่จะลงสนามบ่ายนี้ในฐานะมือ 5 ของรายการ พบ CHOU Tien Chen มือวางอันดับ 4 จากไต้หวัน

ผลการแข่งขันของคู่นี้ อาจจะสำคัญและชี้ชะตาสมาคมแบดมินตันมาเลเซียในอนาคต