รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
Lee Chong Wei เชื่อ”อาหารจากแม่”ทำให้เขาเป็นแชมป์โลก
  7 ส.ค. 2560
แบ่งปัน



ในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก World Championships ทรี่จะจัดขึ้นในเมือง Glasgow ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคมนี้ นักกีฬาที่ตั้งเป้าสูงสุดที่จะเป็นแชมป์ คือ Lee Chong Wei อดีตนักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 1 โลก ที่ไปแข่งขันครั้งนี้ในฐานะ”มือ 2” เพราะที่ผ่านมา ยอดนักแบดมินตันมาเลเซีย เข้าชิงชนะเลิศ 3 ครั้งและแพ้ทั้ง 3 หนที่ London ในปี 2011 Guangzhou ในปี 2013 และ Jakarta ในปี 2015
 
 
  ก่อนจะเดินทางไปสกอตแลนด์ครั้งนี้ด้วยเป้าหมาย”แชมป์” Lee Chong Wei เปิดเผยว่า เคล็ดลับที่ทำให้เขามั่นใจว่าจะสามารถเป็นแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกก็คือ”อาหาร” เพราะไม่ใช่แค่อาหารธรรมดา หากแต่เป็นอาหารที่”คุณแม่”ของเขาทำเอง

โดยในระหว่างการฝึกซ้อมก่อนเดินทางไปแข่งขันทุกวัน Khor Kim Choi มารดาวัย 63 ของ”เทพลี”จะเป็นผู้ปรุงอาหารมาให้ลูกชายกินทุกวัน  เพราะเชื่อว่าจะมีคุณภาพมากกว่าอาหารที่ทางการจัดหาให้
 
“คุณแม่เป็นผู้ทำอาหารมาให้ผม เธอรู้ว่านักกีฬาควรจะกินอะไร มันเป็นอาหารที่ปรุงสุกแบบโฮมเมด แต่ที่สำคัญก็คือ มันเป็นอาหารที่ทำมาจากความรัก " Lee Chong Wei กล่าว

สำหรับการชิงแชมป์โลก ที่เขาจะเข้าร่วมแข่งขันเป็นสมัยที่ 10 นั้น Lee Chong Wei ยอมรับว่าไม่ง่าย แต่ทุกอย่างจะต้องรอการจับสลากในวันพุธ(9ส.ค.) ว่าใครจะเจอใคร
 

ทั้งนี้ ในฐานะ”มือ 2”ของรายการ ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ Lee Chong Wei จะเจอ Son Wan Ho มือวางอันดับ 1 ชาวเกาหลี และ 3 ใน 4 ผู้เล่นจากจีน ซึ่งได้สิทธิ์ไป 4 คนคือ Lin Dan แชมป์โลก 5 สมัย Chen Long แชมป์โลก 2 สมัย และ 2 ผู้เล่นหนุ่ม Shi Yuqi กับ Tian Houwei
 
  “มันไม่สำคัญว่าการจับสลากผมจะต้องเจอใคร เพราะสิ่งสำคัญก็คือ ผมจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งตอนนี้ ผมได้ฝึกซ้อมมาดี ได้พักผ่อนเต็มที่ รวมทั้งมีอาหารดีๆจากคุณแม่” Lee Chong Wei กล่าวถึงการฝึกซ้อมภายใต้การดูแลของ Datuk Misbun Sidek ที่เข้ามารับงานหัวหน้าโค้ชมาเลเซียเมื่อ 1 กรกฎาคม และเป็นผู้กำหนดโปรแกรมการฝึกซ้อมทั้งหมด 
 
 

“ผมพอใจกับระบอบการฝึกซ้อมของโค้ช มันสร้างแรงบัลดาลใจให้ผมพร้อมที่จะไปแข่งขันที่ไหนก็ได้” อดีตมือ 1 โลกยาวนานกล่าวและว่า ความกดดันที่ทุกคนในประเทศคาดหวังว่าเขาจะต้องเป็นแชมป์โลกนั้น ไม่ได้มีผลอะไรกับเขามาก เพราะผ่านเรื่องแบบนี้มาจนคุ้นเคยจนเป็นเรื่องปกติ และแสดงความมั่นใจว่า เวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์นี้ เขาจะสามารถสร้างผลงานได้ดีแน่นอน



 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ